น้ำในเขื่อน

สถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลัก ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา
เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อย เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์


สิ้นปี 2561 เขื่อนหลักทั้ง 4 แห่งในลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีน้ำกักเก็บคงเหลือรวมกัน 17,661 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นปริมาณน้ำที่มากเป็นอันดับที่ 3 รองจากปี 2554 และปี 2560 เมื่อเทียบกับข้อมูลย้อนหลังใน

รอบ 10 ปี ส่วนปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนทั้งปี มีอยู่ 15,676 ล้านลูกบาศก์เมตร น้อยกว่าปีที่แล้ว 3,087 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้มีการระบายน้ำตลอดทั้งปี 17,070 ล้านลูกบาศก์เมตร มากเป็นอันดับที่ 3 รอง

จากปี 2554 และ 2555 รวมทั้งเป็นการระบายน้ำที่มากกว่าปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนทั้งปี โดยมากกว่าอยู่ 1,394 ล้านลูกบาศก์เมตร






เขื่อนภูมิพล
อ.สามเงา จ.ตาก

วันที่ 31 ธันวาคม 2561 เขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำกักเก็บคงเหลือ 9,023 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 67% ของความจุเขื่อน อยู่ในเกณฑ์น้ำปานกลาง โดยเป็นน้ำใช้การได้จริง 5,223 ล้านลูกบาศก์เมตร  ส่วนปริมาณน้ำไหลเข้าสะสมทั้งปีมี 5,172 ล้านลูกบาศก์เมตร ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 464 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นการต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอีกครั้ง หลังจากต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 และสูงกว่าค่าเฉลี่ยเพียงปีเดียวในปี 2560 ส่วนน้ำระบายสะสมทั้งปีมี

6,161 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ถึง 3,471 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นการระบายเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก หลังจากที่มีการระบายลดลงอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2556 และเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี 2560 เนื่องจากปี 2555 มีการระบายน้ำออกจากเขื่อนค่อนข้างมาก ทำให้มีน้ำคงเหลือค่อนข้างน้อย ประกอบกับในปี 2556 -2558 มีน้ำไหลลงเขื่อนน้อย ทำให้มีน้ำระบายลดน้อยลงตามไปด้วย และถึงแม้ในปี 2559 ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนจะมีเพิ่มมากขึ้นแล้วก็

ตาม แต่ยังคงมีการระบายน้ำค่อนข้างน้อย เนื่องจากจำเป็นต้องกักเก็บน้ำไว้เพราะปริมาณน้ำกักเก็บยังมีน้อย ต่อมาในปี 2560 น้ำไหลลงเขื่อนยังคงมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้สามารถระบายน้ำได้เพิ่มขึ้น แต่จะเห็นได้ว่าในปี 2561 ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนลดลงแต่ปริมาณน้ำระบายกลับเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งเป็นการระบายน้ำทั้งปีที่มากกว่าปริมาณน้ำไหลเข้าทั้งปี



หมายเหตุ : ข้อมูลจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

 

 

เขื่อนสิริกิติ์
อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์

ปี 2561  เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำกักเก็บคงเหลือ ณ วันสิ้นปี 7,382 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 78% ของความจุเขื่อน อยู่ในเกณฑ์น้ำปานกลาง เป็นน้ำใช้การได้จริง 4,532 ล้านลูกบาศก์เมตร  โดยปริมาณน้ำน้อยกว่าปี 2560 ประมาณ 565 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนปริมาณน้ำไหลเข้าสะสมทั้งปีมี 7,201 ล้านลูกบาศก์เมตร มากกว่าค่าเฉลี่ย 1,488 ล้านลูกบาศก์เมตร และมากกว่าปี 2560 อยู่ 1,533 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนน้ำระบายสะสมทั้งปีมี 7,450 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ถึง 2,741 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะเห็นได้ว่าปีนี้เขื่อนสิริกิติ์มีน้ำไหลเข้าค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือน

กรกฎาคมที่บริเวณพื้นที่เหนือเขื่อนได้รับอิทธิพลจากพายุ "เซินติญ" (SON-TINH) ทำให้มีฝนตกหนักและมีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนเกิน 100 ล้านลูกบาศก์เมตรในวันที่ 23 กรกฎาคม 2561 และช่วงวันที่ 26-31 กรกฎาคม 2561 ทำให้มีความจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำจากเดิมระบายไม่เกิน 10 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ปรับเป็นการค่อย ๆ เพิ่มการระบายให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนมีการระบายน้ำสูงสุดที่ 34 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ในช่วงวันที่ 8-9 สิงหาคม 2561 ก่อนที่จะลดการระบายลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ในเดือนสิงหาคมเขื่อนสิริกิติ์ยังได้รับอิทธิพลจากพายุ "เบบินคา" (BEBINCA) ทำให้เกิดฝนตกและ

มีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนมากเกิน 100 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เกิดขึ้นอีกครั้ง ต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2561 จนถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2561 โดยมีปริมาณน้ำไหลลงสูงสุด 171 ล้านลูกบาศก์เมตร ในวันที่ 19 สิงหาคม 2561 และถึงแม้ในวันที่ 21 สิงหาคม 2561 ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนจะลดลง แต่ยังคงอยู่ที่ประมาณ 97 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งยังถือเป็นปริมาณน้ำค่อนข้างมาก ทำให้มีความจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำจากเดิมที่ระบายวันละไม่ถึง 20 ล้านลูกบาศก์เมตรเป็นวันละประมาณ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร ในช่วงวันที่ 21-31 สิงหาคม 2561



หมายเหตุ : ข้อมูลจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย



เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน
อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก

ปี 2561 เขื่อนแควน้อยมีปริมาณน้ำกักเก็บคงเหลือ ณ วันสิ้นปี 652 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 69% ของความจุเขื่อน อยู่ในเกณฑ์น้ำปานกลาง เป็นน้ำใช้การ

ได้จริง 609 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนปริมาณน้ำไหลเข้าสะสมทั้งปีมี 1,021 ล้านลูกบาศก์เมตร น้อยกว่าปีที่แล้วค่อนข้างมาก และมีน้ำระบายสะสมทั้งปี 1,163

ล้านลูกบาศก์เมตร น้อยกว่าปีที่แล้วค่อนข้างมากด้วยเช่นกัน



หมายเหตุ : ข้อมูลจากกกรมชลประทาน

 

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี

ปี 2561 เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำกักเก็บคงเหลือ ณ วันสิ้นปี 559 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 58% ของความจุเขื่อน อยู่ในเกณฑ์น้ำปานกลาง เป็นน้ำใช้การได้จริง 556 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยปริมาณน้ำน้อยกว่าปี 2560 ประมาณ 214 ล้านลูกบาศก์เมตร

และเป็นสถานการณ์น้ำกักเก็บน้อยลงต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2560 ส่วนปริมาณน้ำไหลเข้าสะสมทั้งปีมี 2,282 ล้านลูกบาศก์เมตร น้อยกว่าปีที่แล้วถึง 1,522 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนปริมาณน้ำระบายสะสมทั้งปีมี 2,297 ล้านลูกบาศก์เมตร น้อยกว่าปีที่แล้ว 1,410

ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนรายปีและปริมาณน้ำระบายรายปีน้อยกว่าค่าเฉลี่ยมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา มีเพียงปี 2560 เท่านั้นที่มีน้ำไหลเข้าและน้ำระบายมากกว่าค่าเฉลี่ย



หมายเหตุ : ข้อมูลจากกกรมชลประทาน