ข่าวน้ำท่วม

"ซินลากู"แผลงฤทธิ์ "อุดรธานี-หนองบัวลำภู"น้ำท่วม [ ฐานเศรษฐกิจ : 2 ส.ค. 63 19:47 น. ]

"พายุโซนร้อนซินลากู"ทำฝนตกหนักกระทบไทย "อุดรธานี"สะพานและฝายชำรุด ด้าน"หนองบัวลำภู"น้ำท่วมถนนหลายจุด
นายวันชัย จันทร์พร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ลงพื้นที่ตรวจสภาพน้ำและอำนวยการแก้ไขปัญหาน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี เนื่องจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนซินลากู โดยพบว่ามีน้ำท่วมขังที่หมู่ 3 และหมู่ 6 ตำบลน้ำโสม ส่วนที่บ้านนาเมืองไทย หมู่ 7 ตำบลน้ำโสม สะพานข้าม

ฝายชำรุด ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการจัดหาราวเหล็กมาพาดลำห้วย ทำเป็นสะพานให้ประชาชนได้สัญจรชั่วคราว พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไปด้านนายวิสูติ ซื่อพัฒนะ นายอำเภอน้ำโสม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยอำเภอน้ำโสม กล่าวว่า ในช่วงเช้าได้มอบหมายให้นายศักดิ์ชัย ราตรี ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นำสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอน้ำโสม ออกตรวจสอบ

เหตุอุทกภัย และให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยโสม ท้องที่บ้านนาเมืองไทย , บ้านน้ำปด ตำบลน้ำโสม และบ้านท่าโสม ตำบลศรีสำราญ ในการขนย้ายสิ่งของและให้การช่วยเหลือด้านอื่นๆ ที่ประชาชนต้องการ พร้อมแจ้งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประกาศแจ้งเตือนประชาชนในเขตตำบลโสมเยี่ยมและตำบลศรีสำราญ เพื่อเฝ้าระวังเหตุน้ำป่าไหลหลาก ตามที่ส่วนอุทกวิทยาที่ 2 อุดรธานี ได้แจ้งเตือนล่วงหน้า






พิษพายุ"ซินลากู"หลายพื้นที่น้ำท่วมถนนพังคอสะพานขาด [ แนวหน้า : 2 ส.ค. 63 16:52 น. ]

พะเยา-อิทธิพลพายุ“ซินลากู” พ่นพิษแล้ว หลายพื้นที่ถนนพังจากฤทธิ์น้ำป่าไหลหลาก เตือนชาวบ้านขนของขึ้นที่สูงเตรียมหนีน้ำ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ฝนตกน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่จ.พะเยา เนื่องจากพิษพายุซินลากู เป็นเหตุให้ถนนเข้าพื้นที่การเกษตร และทางเบี่ยงเสียหายหลายจุดในพื้นที่ ต.ออย อ.ปง จ.พะเยา ขณะที่สายฝนยังคงโปรยปรายลงมาไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน ประชาชน

ส่วนหนึ่งได้นำอุปกรณ์หาปลาลงไปหาปลาในอ่างเก็บน้ำห้วยแก่น ที่กำลังดำเนินการขุดลอก นายอนุรักษ์ โปร่งสุยา นายกอบต.ออย อ.ปง จ.พะเยา เปิดเผยว่า มีฝนตกหนักตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00 น.เป็นต้นมา ทำให้ระดับน้ำแม่น้ำงิม และลำห้วยสาขาต่าง ๆ เพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็วและไหลแรงจนเป็นเหตุให้พัดถนน คอสะพาน ทางเบี่ยงเสียหายหลายจุด เช่น ทางเบี่ยงสายดอนไชยป่าแขม-ต้นฝาง หมู่ 3 และ 5

ถนนที่เข้าพื้นที่เกษตรห้วยเลา - บ้านต้นฝาง และเชื่อมระหว่างบ้านหลวง หมู่ 6 เชื่อมบ้านฝายแก้ว 7 น้ำพัดขาดไม่สามารถสัญจรได้ในขณะนี้ เบื้องต้นตนได้แจ้งความเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับหน่วยงานทางหลวงชนบท(ทช.) พะเยา รับทราบและพร้อมเข้าดำเนินการซ่อมหลังจากฝนหยุดตก






พายุ "ซินลากู" อ่อนกำลังลง เตือนฝนยังตกหนัก 44 จังหวัด [ ThaiPBS : 3 ส.ค. 63 06:28 น.]

กรมอุตุนิยมวิทยา คาดดีเปรสชัน "ซินลากู" อ่อนกำลังลงในวันนี้ แต่ไทยยังมีฝนตกหนัก 44 จังหวัด จนถึงวันที่ 4 ส.ค.นี้ เตือนระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก วันนี้ (3 ส.ค.2563) เวลา 05.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 10 พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน ซินลากู) โดยมีรายละเอียดดังนี้ เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน ซินลากู) มีศูนย์กลางอยู่ที่ อ.ปัว จ. น่าน หรือที่ละติจูด

19.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 101.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้า ๆ คาดว่าพายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ (พายุระดับ 1) ในวันนี้ ( 3 ส.ค. 63 ) สำหรับร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ เข้าสู่พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน ซินลากู) ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน

ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก


พื้นที่ที่คาดว่าได้รับผลกระทบ 3 ส.ค.นี้
ภาคเหนือ บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.พะเยา จ.แพร่ จ.น่าน จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.พิจิตร จ.กำแพงเพชร จ.เพชรบูรณ์ และ จ.ตาก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณ จ.เลย

จ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี จ.หนองคาย จ.บึงกาฬ จ.สกลนคร จ.นครพนม จ.ขอนแก่น จ.กาฬสินธุ์ จ.มหาสารคาม และ จ.ชัยภูมิ
ภาคกลาง บริเวณ จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.กาญจนบุรี และ จ.ราชบุรี

ภาคตะวันออก บริเวณ จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี และ จ.ตราด
ภาคใต้ บริเวณ จ.ระนอง จ.พังงา จ.ภูเก็ต จ.กระบี่ จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นครศรีธรรมราช


พื้นที่ที่คาดว่าได้รับผลกระทบ 4 ส.ค.นี้
ภาคเหนือ บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.สุโขทัย จ.กำแพงเพชร และ จ.ตาก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณ จ.เลย จ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี จ.หนองคาย จ.ขอนแก่น และ จ.ชัยภูมิ


ภาคกลาง บริเวณ จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.กาญจนบุรี และ จ.ราชบุรี
ภาคตะวันออก บริเวณ จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี และ จ.ตราด


ภาคใต้ บริเวณ จ.ระนอง จ.พังงา จ.ภูเก็ต จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร และ จ.สุราษฎร์ธานี

ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง

มากกว่า 4 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ควรงดออกจากฝั่ง โดยหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง จนถึงวันที่ 4 ส.ค.นี้ ส่วนพายุโซนร้อน "ฮากูปิต" บริเวณด้านตะวันออก

ของเกาะไต้หวัน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ในช่วงวันที่ 3-4 ส.ค.นี้ ซึ่งพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อไทย




พายุซินลากูถล่มเชียงคำ น้ำป่าซัดซ้ำทางขาด เด็กไปโรงเรียนทุลักทุเล [ ไทยรัฐออนไลน์ : 4 ส.ค. 63 13:38 น. ]

"พายุซินลากู" ตกถล่มเชียงคำน้ำท่วมสูง เด็กนักเรียนร้องไห้เดินทางไปโรงเรียนด้วยความยากลำบาก หลังมีน้ำป่าทะลักซัดอีก ทำทางเบี่ยงขาด ครูและผู้ปกครองต้องอุ้มเด็กๆ ลุยข้ามน้ำไปโรงเรียนอย่างทุลักทุเล เมื่อวันที่ 4 ส.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่พายุซินลากูพัดถล่มในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะภาคเหนือ จนทำให้น้ำป่าซัดถนนหลายแห่งชำรุดเสียหาย ล่าสุดที่บ้านคะแนง ม.10 ต.แม่ลาว อ.เชียงคำ จ.พะเยา ก็ถูกอิทธิพลจากพายุลูกนี้พัดเอาน้ำป่าซัดทางเบี่ยงขาดจนทำให้เด็กนักเรียนกว่า 30 คนไม่สามารถมา โรงเรียนบ้านน้ำมินตามปกติได้ ทั้งนี้ทางผู้ปกครองที่มาส่งบุตรหลานของตนเองนั้นต่างต้องอุ้มเด็กๆ แล้วเดินข้ามน้ำลาวอย่างทุลักทุเล โดยมีคณะครูและผู้อำนวยการจาก

โรงเรียนบ้านน้ำมินได้นำรถของโรงเรียนมาคอยรับตัวเด็กๆ เหล่านี้ด้วย นายณัฐฐศรัณฐ์ พรหมเผ่า ผอ.ร.ร.บ้านน้ำมิน กล่าวว่า หลังจากที่พายุซินลากูพัดถล่มในหลายพื้นที่นั้น ทางบ้านคะแนง ม.10 ต.แม่ลาว อ.เชียงคำ ก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน ซึ่งลำน้ำลาวที่เป็นช่วงต้นน้ำนั้นได้มีน้ำป่าไหลหลากมาอย่างรวดเร็วจนทำให้ทางเบี่ยงที่สร้างไว้สัญจรชั่วคราว บริเวณข้างการก่อสร้างสะพานข้ามลำน้ำลาวนั้นเกิดขาดอย่างกะทันหัน ตั้งแต่ช่วงดึกของวันที่ 3 ส.ค.63 ที่ผ่านมา จนทำให้เส้นทางในการสัญจรไปมานั้นต้องหยุดชะงักทันที โดยช่วงเช้า 07.30 น. เด็กนักเรียนที่จะเดินทางมาโรงเรียน ไม่สามารถข้ามลำน้ำลาวมาเรียนตามปกติได้ จึงได้ประสานไปยัง นายปิ่นศักดิ์ ไชยวารินทร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ต.แม่ลาว และ

ผู้ปกครองที่มาส่งบุตรหลานรวมทั้งคณะครูที่เป็นผู้ชายให้อุ้มเด็กๆ ข้ามน้ำมา ซึ่งต้องเดินข้ามน้ำมาอย่างยากลำบาก เพื่อพาเด็กๆ มาโรงเรียน ซึ่งตนเองก็ยืนกำกับดูแลอยู่ไม่ห่าง ทั้งนี้หวังว่าหากฝนหยุดตกแล้วทางผู้รับเหมาจะเริ่มสร้างทางเบี่ยงให้ทันทีเพื่อที่จะได้ให้เด็กๆ ของโรงเรียนบ้านน้ำมินและผู้ปกครองเดินทางไปมาได้อย่างสะดวกเช่นเดิม ด้านนายกนกศรี วิชัยนันท์ นายอำเภอเชียงคำ กล่าวเพิ่มว่า ในขณะนี้ตนเองได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วและทราบว่าเด็กๆ ที่เดินทางมาโรงเรียนน้ำมินนั้นต้องเดินทางมาด้วยความยากลำบาก โดยบ่ายนี้ตนเองและผู้เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือโดยทันที