ภาพถ่ายจากดาวเทียม GOES-9 เพื่อติดตามสภาพอากาศ พบว่าในช่วงวันที่ 19-24 พฤษภาคม 2547 มีกลุ่มเมฆปกคลุมบริเวณตอนเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตากและจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ดังกล่าว
|
|
|
|
| ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ภาพถ่ายจากดาวเทียม GOES-9 เพื่อติดตามสภาพอากาศ พบว่าในช่วงวันที่ 19-24 พฤษภาคม 2547 มีกลุ่มเมฆปกคลุมบริเวณตอนเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตากและจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ดังกล่าว |
|||
ปริมาณฝนสะสม
 |
|
ภาพฝนสะสมรายวันจัดทำโดย |
ปริมาณฝนรวมในช่วง 24 ชั่วโมงจากสถานีตรวจวัดอากาศกรมอุตุนิยมวิทยา
| การติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่โดยใช้สถิติของการกระจายตัวของน้ำฝนเพื่อวิเคราะห์แนวโน้ม
ประยุกต์ใช้ภาพตรวจอากาศด้วยเรดาห์ และค่าปริมาณฝนที่ตก ซึ่งตรวจวัดโดยสถานีตรวจอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา
โดยบริเวณวงกลมสีแดงหมายถึงพื้นที่ที่มีฝนตกหนัก จากภาพจะพบว่าในช่วงวันที่
19-22 พฤษภาคม 2547 มีฝนตกชุกในภาคเหนือบริเวณจังหวัดตากและแม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะวันที่
20 พฤษภาคม 2547 มีปริมาณน้ำฝนมากถึง 160 มิลลิเมตร ดูรายละเอียดเพิ่มเติม |
แผนที่อากาศและแผนที่วิเคราะห์เส้นทางและความแรงของพาุยุ
| พายุไซโคลน 02b ในอ่าวเบงกอลตอนบน เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศพม่าทางตะวันออกค่อนทางเหนือ และได้อ่อนกำลังเป็น พายุดีเปรสชั่น ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักติดต่อกัน ตั้งแต่วันที่ 19-20 พฤษภาคม 2547 | |
ข่าวจากหนังสือพิมพ์
น้ำป่าท่วมแม่ระมาด ถล่มบ้านพัง 200 หลัง [ ไทยรัฐ 21 พ.ค. 47 ]
| พายุฝนกระหน่ำหนักในหลายท้องที่ของ จ.ตาก มาตั้งแต่เช้าของวันที่ 19 พ.ค. ส่งผลให้เกิดน้ำป่าจากเทือกเขาธงชัย เขตป่าสงวนแห่งชาติแม่ระมาด ไหลทะลักลงสู่ลำห้วยแม่ระมาดที่ไหลผ่านเขตเทศบาลตำบลแม่ระมาดและอีกหลายพื้นที่ของ อ.แม่ระมาด กระแสน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนของราษฎรที่ปลูกเรียงรายอยู่ตลอดริมลำห้วยหลายร้อยครัวเรือนจมอยู่ใต้น้ำ โดยบ้านบางหลังระดับน้ำสูงถึงชั้น 2 กระแสน้ำที่เชี่ยวกรากยังหอบเอาท่อนซุงหลายร้อยต้นจากภูเขา กระแทกบ้านเรือนจมหายไปกับกระแสน้ำกว่า 200 หลังคาเรือน ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพหนีตายโกลาหล บางคนหนีไม่ทัน ถูกกระแสน้ำซัดขึ้นไปติดตามต้นไม้ โดยมีรายงานด้วยว่าขณะเกิดเหตุมีราษฎรถูกน้ำป่าพัดสูญหายไปกับกระแสน้ำกว่า 10 คน นอกจากนี้ พายุฝนที่ถล่มหนักยังส่งผลให้น้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร และเรือกสวนไร่นาในพื้นที่ ต.แม่จะเรา ต.พระธาตุ อ.แม่ระมาด และพื้นที่อำเภอใกล้เคียงเสียหายเป็นบริเวณกว้าง บ้านเรือนราษฎรจมอยู่ใต้น้ำนับพันหลังคาเรือน ถนนสายแม่สอด-แม่ระมาด ถูกดินจากภูเขาถล่มลงมาทับเส้นทาง ระหว่าง กม.45-47 หมู่ 7 ต.ขะเนจื้อ ทำให้การสัญจรไปมากลายเป็นอัมพาต สะพานเชื่อมถนนระหว่างแม่สอด-ท่าสองยาง ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลัก ถูกท่อนซุงขนาดใหญ่กว่า 2 คนโอบ นับร้อยต้นที่ไหลมากับกระแสน้ำ กระแทกจนคอสะพานขาด ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ระดับน้ำที่ท่วมสูงกว่า 2 เมตร ประกอบกับพายุฝนที่กระหน่ำหนักตลอดทั้งวัน ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศได้ กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชัน "ยูทูบี" ปกคลุมประเทศพม่าและตอนบนของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรง พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทย ลักษณะดังกล่าวจะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ในพื้นที่ลาดเชิงเขาและที่ลุ่มบางพื้นที่ของ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ ตาก ลำปาง น่าน แพร่ เพชรบูรณ์ อุทัยธานี และกาญจนบุรี ส่วนคลื่นลมในบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง |
 เมื่อเวลา
05.00 น. วันที่ 20 พฤษภาคม เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บริเวณลำห้วยแม่ระมาด
ลำห้วยขะเนจื้อ ต.ขะเนจื้อ อ.แม่ระมาด จ.ตาก เนื่องมาจากฝนได้ตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืน
ขณะเดียวกันดินภูเขาถล่มลงมาปิดถนน อ.แม่สอด-อ.แม่ระมาด-อ.ท่าสองยาง ก.ม.ที่
46-49 และถนน อ.แม่ระมาด-บ้านตาก ก.ม.ที่ 70-73 ไม่สามารถสัญจรได้ ส่งผลให้รถโดยสารสาย
อ.แม่สอด-อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน และ อ.แม่ระมาด-อ.ท่าสองยาง ต้องหยุดเดินรถ
เวลา 07.00 น. น้ำได้ไหลบ่าเข้าเขตเทศบาลตำบลแม่ระมาด บ้านเรือนกว่า 1,000
หลัง ถูกน้ำท่วมฉับพลัน โดยกระแสน้ำเชี่ยวกราก ชาวบ้านต้องทิ้งบ้านหนีเอาตัวรอด
มีบ้านประมาณ 10 หลัง ถูกน้ำพัดพาไป รถยนต์จมอยู่ใต้น้ำ 5 คัน |
ซุง-โคลนถล่มจมเขตเทศบาล แม่ระมาด-ตาก ตาย 4 หายนับ 10 [ ข่าวสด 22 พ.ค. 47 ]
ฝนกระหน่ำนำโคลน-ซุงถล่มเขตเทศบาลแม่ระมาด จ.ตาก ผู้คนหายไปกับสายน้ำและจมอยู่ใต้ทะเลโคลนจำนวนมาก บ้านถูกพัดหายไปทั้งหลังนับร้อย ระดมทหาร ตชด. และจนท.เข้าช่วยเหลือ และค้นหาศพ เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 4 ราย และสูญหายอีกนับ 10 ชาวบ้าน 6,019 คน จาก 2,113 ครอบครัวได้รับความเดือดร้อน แฉเหตุป่าต้นน้ำถูกทำลายจำนวนมาก เมื่อฝนตกติดต่อกันไม่มีไม้ใหญ่อุ้มน้ำไว้ทั้งโคลนและท่อนซุงที่มีผู้ลักลอบตัดไว้ในป่าก็ไหลบ่าลงมาถล่มพื้นล่าง ่เบื้องต้นประเมินความเสียหายไว้ประมาณ 100 ล้านบาท มีผู้เสียชีวิตและสูญหาย 4 คนทั้งหมดอยู่บ้านเดียวกัน เลขที่ 25/2 หมู่ 5 ต.แม่ระมาด อ.แม่ระมาด โดยบ้านถูกน้ำพัดหายไปทั้งหลัง สำหรับสภาพความเสียหายพบว่าประชาชน 6,019 คน จาก 2,113 ครอบครัว ได้รับความเดือดร้อน บ้านถูกพัดหายไปกับกระแสน้ำ 39 หลังคาเรือน และอีกหลายร้อยหลังคาเรือนเสียหายบางส่วน นอกจากนี้ภายหลังน้ำลดพบว่ามีท่อนซุงนับหมื่นลอยมาติดในพื้นที่น้ำท่วม แสดงว่าบริเวณพื้นที่ต้นน้ำมีป่าไม้ถูกลักลอบตัดจำนวนมาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะป่าและธรรมชาติถูกทำลาย เพราะมีต้นไม้ถูกลักลอบตัดจำนวนมาก สังเกตจากท่อนซุงที่ลอยมาตามน้ำ จึงเป็นเครื่องเตือนใจและอุทาหรณ์ว่าอย่าตัดไม้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาคือ 1.สร้างอ่างเก็บน้ำ 2.ขุดลอกลำห้วยแม่ระมาด เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก 3.ป้องกันการตัดไม้ทำลายป่าและทรัพยากรธรรมชาติ และขอให้ชาวบ้านตระหนักถึงโทษภัยของการตัดไม้ |
ดินถล่มเชียงใหม่-น้ำพัดสังเวย
1 ศพ [ กรุงเทพธุรกิจ 23 พ.ค. 47 ]
พิษพายุฤดูฝนทำให้น้ำป่าไหลหลากดินถล่มสร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ของประเทศ ทั้งที่เชียงใหม่-ตาก-ราชบุรี-กาญจนบุรี ชาวบ้านต้องอพยพหนีตายอลหม่าน บ้านเรือน-นาข้าวเสียหายหนัก ล่าสุดพบผู้เสียชีวิต 1 ศพ บาดเจ็บ 4 ราย และบ้านเรือนพัง 14 หลัง ขณะที่อาคารเรียน-บ้านพักครูของโรงเรียนล่องแพวิทยาเสียหายหนัก ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงใหม่ ว่า ได้เกิดดินถล่มในพื้นที่ 3 ตำบล คือ ต.ยางเปียง ต.แม่ตื่น และต.ม่อนจอง อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายติ๊ปุ๊ มาธุศรสวรรค์ ชาวบ้านหมู่ 5 ต.ยางเปียง สำหรับความเสียหาย คือ มีสะพานขาด 2 จุด คือ สะพานห้วยแม่ฮัก ซึ่งเป็นสะพานคอนกรีตเชื่อมจาก ต.เปียงยาง เข้าสู่ ต.แม่ตื่น ถูกตัดขาดเป็นระยะทางยาวกว่า 40 เมตร และสะพานห้วยหล่อดูก ต.แม่ตื่น ถูกตัดขาดเป็นระยะทางประมาณ 100 เมตร ส่วนการคมนาคมบางช่วงถูกตัดขาดเนื่องจากต้นไม้ใหญ่ล้มลงมาขวางถนนหลายจุด นอกจากนี้โรงเรียนในพื้นที่ถูกปิด ต้องอพยพเด็กและคนแก่ไปอยู่ในหมู่บ้านข้างเคียงที่ปลอดภัย เพราะหวั่นว่าจะมีฝนตกซ้ำ |
เหนือท่วมระทม เดือดร้อนสาหัส [ ไทยรัฐ 24 พ.ค. 47 ]
 ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 23 พ.ค. ว่า น้ำที่เข้าท่วมหนักใน อ.แม่ระมาด
ได้ลดระดับลงบ้างแล้ว เหลือไว้ให้เห็นแต่เพียงซากปรักหักพัง ของบ้านเรือนราษฎร
และพืชผลทางการเกษตร ทางกองทัพภาคที่ 3 ระดมเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรกลเข้าไปให้การช่วยเหลือ
เร่งกู้ซากปรักหักพัง โดยเฉพาะท่อนซุงจำนวนมาก ที่ถูกกระแสน้ำพัดมาปิดขวางถนน
และทางน้ำ เพื่อให้การสัญจรไปมาใช้ได้ตามปกติ นอกจากนี้ ในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตจำนวน
2 ศพ นายเฉลิมชัย เอกก้านตรง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงนี้ยังไม่มีพายุอยู่ใกล้ประเทศไทย มีเพียงลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทางภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ และ กทม. ทำให้มีฝนตกในช่วงเย็นและค่ำแต่ไม่รุนแรง เนื่องจากร่องฝนที่เคยพาดผ่านภาคกลางได้อ่อนกำลังลง ส่วนที่ อ.แม่ระมาด จ.ตาก เท่าที่ได้ลงไปดูพื้นที่และตรวจสอบสภาพอากาศนั้นกลับมาเป็นปกติแล้ว มีน้ำฝนที่หลงเหลืออยู่บนภูเขาไหลลงมาบ้างแต่ไม่ถึงกับรุนแรง ขอให้ประชาชนไม่ต้องวิตก สำหรับพื้นที่ล่อแหลมที่จะเกิดน้ำท่วมนั้นยังอาจเกิดขึ้นได้ตามที่ลาดเชิงเขาและที่ลุ่มริมน้ำบางพื้นที่ของ จ.กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตราย ที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมในบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ |
แม่ระมาดเสียหายยับ 127 ล้าน นอภ. สั่งระวังน้ำเขา "ทีมู" [ มติชน 30 พ.ค. 47 ]
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม นายสุชาติ นพวรรณ นายอำเภอแม่ระมาด จ.ตาก กล่าวถึงความเสียหายจากอุทกภัยที่ อ.แม่ระมาด ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ว่า ความเสียหายล่าสุดที่ทางอำเภอได้รวบรวมข้อมูลไว้ก็คือ มีบ้านเสียหายทั้งหลัง 211 หลัง เสียหายบางส่วน 214 หลัง โทรทัศน์ 117 เครื่อง ตู้เย็น 190 หลัง รถยนต์ 33 คัน สุกร 54 ตัว โค 30 ตัว คอมพิวเตอร์ 24 เครื่อง รถจักรยานยนต์ 85 คัน ที่นา 3,173 ไร่ ที่ไร่ 956 ไร่ ที่สวน 233 ไร่ ขณะที่สิ่งสาธารณประโยชน์เป็น สะพาน 17 แห่ง ถนน 26 สาย ดินถล่ม 15 แห่ง ฝาย 70 ฝาย รวมความเสียหาย 830 ราย บ้าน 425 หลัง รวมค่าเสียหายที่ประมาณราคาได้บางส่วน รวมมูลค่า 127 ล้าน 5 แสนบาท นายสุชาติกล่าวว่า ยังมีความจำเป็นที่ต้องเฝ้าระวังการเกิดอุทกภัยซ้ำสองตลอด โดยส่งเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าบริเวณต้นน้ำเขาทีมูบริเวณอุทยานแห่งชาติพะวอตลอดเวลา ถ้ามีการไหลหลากของน้ำป่าให้แจ้งมายังพื้นที่ลุ่มน้ำเพื่อทางอำเภอจะได้แจ้งเตือนภัยให้ประชาชนได้ทราบ เพราะดินโคลน เศษไม้ ต้นไม้มาจากบริเวณดังกล่าว และไหลมากับกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากมาในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลแม่ระมาด และตำบลแม่ตื่น ด้านนายสมชาย หทยะตันติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ให้สัมภาษณ์ว่า กำลังเร่งรัดฟื้นฟูสภาพทุกด้านในอำเภอแม่ระมาดให้ดีขึ้น เช่น การส่งเสริมอาชีพ การเลี้ยงสัตว์ การคมนาคม ซึ่งมีเกษตรจังหวัด โยธาจังหวัด และปศุสัตว์จังหวัดเร่งแก้ปัญหาในพื้นที่แล้ว และขณะนี้สามารถฟื้นฟูเขตแม่ระมาดให้เข้าสู่สภาพปกติได้ประมาณ ร้อยละ 70-80 แล้ว |
สรุปสาเหตุโคลนถล่มและมูลค่าความเสียหาย
| สาเหตุ : ในระหว่างวันที่ 18-20 พฤษภาคม 2547 ปริมาณน้ำฝนหนักมากกว่าปกติ โดยเฉพาะวันที่ 20 พฤษภาคม 2547 มีปริมาณน้ำฝนมากถึง 160 มิลลิเมตร ทำให้ดินบนภูเขาสูงชันไม่สามารถอุ้มน้ำไว้ได้ เกิดดินถล่มลงมาอย่างรุนแรงในบริเวณป่าธรรมชาติและไร่ร้าง และสาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งคือ เกิดจากการตัดไม้ทำลายป่าเป็นจำนวนมากในบริเวณพื้นที่ต้นน้ำซึ่งเป็นภูเขาสูง และมีการอพยพตั้งถิ่นฐานในบริเวณริมห้วยในพื้นที่ลาดเชิงเขาซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยจากโคลนถล่มเพิ่มมากขึ้น |
| ความเสียหาย : มีพื้นที่ประสบภัย 3 อำเภอ 3 จังหวัด (อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ และ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน) ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 1,483 ครัวเรือน 5,905 คน มีผู้เสียชีวิต 6 คน (จังหวัดตาก 5 คน จังหวัดเชียงใหม่ 1 คน ) บ้านเรือนเสียหาย 624 หลัง สิ่งสาธารณะประโยชน์ ถนน ทำนบ เหมือง ฝาย และพื้นที่เกษตร ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ( ข้อมูลจาก ข่าวการประชุม ครม. วันที่ 25 พฤษภาคม 2547 ) |
 ที่มา : กรมทรัพยากรธรณี |
 ที่มา : กรมทรัพยากรธรณี |
