บันทึกเหตุการณ์น้ำท่วมจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นและพายุไซโคลนในทะเลอันดามัน (1-20 พฤษภาคม 2550)

ภาพเส้นทางพายุ โดย Unisys Weather


Date: 14-15 MAY 2007  Cyclone-1 AKASH  
ADV LAT LON TIME WIND PR STAT
1 16.10 91.10 05/13/18Z 35 - TROPICAL STORM
2 18.10 91.60 05/14/06Z 55 - TROPICAL STORM
3 21.40 92.10 05/14/18Z 65 - CYCLONE-1
3A 21.40 92.10 05/14/18Z 65 - CYCLONE-1
4 22.40 92.40 05/15/00Z 50 - TROPICAL STORM

ที่มา : UNISYS Weather (http://weather.unisys.com/hurricane/n_indian/2007/index.html)

ช่วงวันที่ 1-4 พ.ค. 50 มีพายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลอันดามัน โดยวันที่ 2 พ.ค. 50 มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากจังหวัดชุมพรไปทางตะวันตกประมาณ 350 กิโลเมตร หรือ ที่ละติจูด 11.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 95.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนทางเหนือด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมงต่อมาในวันที่ 3 พ.ค. 50 เวลา พายุดีเปรสชั่นในทะเลอันดามัน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากจังหวัดตากไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณ 600 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 13.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 94.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเคลื่อนตัวทางเหนือค่อนทางตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และในวันที่ 4 พ.ค. 54 พายุได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำคงปกคลุมบริเวณ ประเทศพม่า ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางด้านตะวันตกมีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แพร่ น่าน พะเยา พิษณุโลก อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท และกาญจนบุรี

วันที่ 14 พ.ค. 50 พายุไซโคลน “01B” ในอ่าวเบงกอลตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ทางตะวันตกของกรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า ห่างประมาณ 550 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 16.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 91.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้ร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านประเทศไทยตอนบน กับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือมีฝนตกชุกหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน  เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย และ กำแพงเพชร 

วันที่ 15 พ.ค. 50 พายุไซโคลน “01B(AKASH)” ได้เคลื่อนตัวขึ้นสู่บริเวณชายฝั่งของประเทศพม่า โดยมีศูนย์กลางอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า ห่างประมาณ 700 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 21.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 92.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางเหนือค่อนทางตะวันออก ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลักษณะดังกล่าวจะทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีฝนชุกกับมีฝนตกหนัก บางพื้นที่ โดยเฉพาะด้านตะวันตกของภาคบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี ระนองและพังงา


ภาพถ่ายดาวเทียม GOES-9 โดย มหาวิทยาลัยโคช

1/5/2007
[11GMT]

2/5/2007
[11GMT]

3/5/2007
[11GMT]

4/5/2007
[11GMT]

5/5/2007
[11GMT]

6/5/2007
[11GMT]

7/5/2007
[11GMT]

8/5/2007
[11GMT]

9/5/2007
[11GMT]

10/5/2007
[11GMT]

11/5/2007
[11GMT]

12/5/2007
[11GMT]

13/5/2007
[11GMT]

14/5/2007
[11GMT]

15/5/2007
[11GMT]

16/5/2007
[11GMT]

17/5/2007
[11GMT]

18/5/2007
[11GMT]

19/5/2007
[11GMT]

20/5/2007
[11GMT]
หมายเหตุ : เวลาประเทศไทย = เวลา GMT + 7 ชั่วโมง

จากภาพถ่ายดาวเทียม GOES-9 พบว่าช่วงวันที่ 1-5 พ.ค. 50 มีกลุ่มเมฆหนาปกคลุมทะเลอันดามัน อันเป็นผลมาจากมีพายุดีเปรสชั่นในบริเวณดังกล่าว และส่งผลทำให้มีฝนตกหนักทางด้านตะวันตกของประเทศไทย หลังจากวันที่ 5 พ.ค. ยังคงมีกลุ่มเมฆปกคลุมบริเวณดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันที่ 13 พ.ค. 50 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดพายุไซโคลนบริเวณอ่าวเบงกอล ส่งผลให้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องบริเวณตะวันตกของประเทศไทย และแผ่วงกว้างไปยังพื้นที่ภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคกลาง

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

ภาพแผนที่อากาศ โดย กรมอุตุนิยมวิทยา

1/5/2007[19UTC]

2/5/2007[19UTC]

3/5/2007[19UTC]

4/5/2007[19UTC]

5/5/2007[01UTC]

6/5/2007[13UTC]

7/5/2007[07UTC]

8/5/2007[13UTC]

9/5/2007[13UTC]

10/5/2007[13UTC]

11/5/2007[19UTC]

12/5/2007[13UTC]

13/5/2007[19UTC]

14/5/2007[13UTC]

15/5/2007[01UTC]

16/5/2007[13UTC]

17/5/2007[07UTC]

18/5/2007[13UTC]

19/5/2007[13UTC]

20/5/2007[13UTC]

หมายเหตุ : เวลาประเทศไทย = เวลา UTC + 7 ชั่วโมง

จากภาพเรดาร์กรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าช่วงวันที่ 2-5 พ.ค. มีพายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลอันดามันและเคลื่อนตัวเข้าประเทศพม่าในวันที่ 4-5 พ.ค. ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักทางด้านตะวันตกของประเทศไทย หลังจากนั้นพายุได้สลายตัวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ต่อมาในช่วงวันที่ 7-12 พ.ค. มีร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องบริเวณด้านตะวันตกของประเทศ รวมถึงภาคเหนือและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ต่อมาในวันที่ 13-15 พ.ค. มีพายุไซโคลนบริเวณอ่าวเบงกอล ซึ่งส่งผลกระทบทำให้มีฝนเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ดังกล่าวมาแล้วข้างต้น ส่งผลให้เกิดน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก และเกิดดินถล่ม

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม



ภาพเรดาร์ตรวจอากาศ โดย กรมอุตุนิยมวิทยา
เรดาร์เชียงใหม่ รัศมี 240 กิโลเมตร

1/5/2007 09:22GMT

2/5/2007 08:22GMT

3/5/2007 20:22GMT

4/5/2007 08:22GMT

5/5/2007 03:22GMT

6/5/2007 09:22GMT

7/5/2007 21:22GMT

8/5/2007 00:22GMT

9/5/2007 19:22GMT

10/5/2007 10:22GMT

11/5/2007 03:22GMT

12/5/2007 23:22GMT

13/5/2007 01:22GMT

14/5/2007 17:22GMT

15/5/2007 09:22GMT

16/5/2007 10:22GMT

17/5/2007 19:22GMT

18/5/2007 08:22GMT

19/5/2007 22:22GMT

20/5/2007 00:22GMT
dBz          หมายเหตุ : เวลาประเทศไทย = เวลา GMT + 7 ชั่วโมง

ข้อมูลจากเครือข่ายภาพเรดาร์กรมอุตุนิยมวิทยา เรดาร์เชียงใหม่ พบว่าตั้งแต่วันที่ 1-20 พ.ค. 50 มีฝนตกอย่างต่อเนื่องบริเวณภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะช่วงวันที่ 3-7 พ.ค. ที่เกิดพายุดีเปรสชั่นในทะเลอันดามัน และวันที่ 12-14 พ.ค. ที่ได้รับอิทธิพลจากพายุไซโคลนในอ่าวเบงกอล

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม


ภาพเรดาร์ตรวจอากาศ โดย สำนักงานฝนหลวง
เรดาร์อมก๋อย รัศมี 240 กิโลเมตร

1/5/2007 17:00
Local Time

2/5/2007 15:00
Local Time

3/5/2007 16:00
Local Time

4/5/2007 15:00
Local Time

5/5/2007 05:00
Local Time

6/5/2007 02:00
Local Time

7/5/2007 07:00
Local Time

8/5/2007 02:00
Local Time

9/5/2007 21:00
Local Time

10/5/2007 16:00
Local Time

11/5/2007 22:00
Local Time

12/5/2007 19:00
Local Time

13/5/2007 11:00
Local Time

14/5/2007 01:00
Local Time

15/5/2007 01:00
Local Time

16/5/2007 19:00
Local Time

17/5/2007 18:00
Local Time

18/5/2007 02:00
Local Time

19/5/2007 03:00
Local Time

20/5/2007 04:00
Local Time
เรดาร์หัวหิน รัศมี 240 กิโลเมตร

1/5/2007 08:00
Local Time

2/5/2007 05:00
Local Time

3/5/2007 16:00
Local Time

4/5/2007 12:00
Local Time

5/5/2007 22:00
Local Time

6/5/2007 17:00
Local Time

7/5/2007 15:00
Local Time

8/5/2007 19:00
Local Time

9/5/2007 17:00
Local Time

10/5/2007 05:00
Local Time

11/6/2554 13:27
Local Time

12/6/2554 13:27
Local Time

13/6/2554 11:27
Local Time

14/5/2007 23:00
Local Time

15/5/2007 17:00
Local Time

16/5/2007 16:00
Local Time

17/5/2007 16:00
Local Time

18/5/2007 13:00
Local Time

19/5/2007 11:00
Local Time

20/5/2007 08:00
Local Time
dBz                               

ข้อมูลจากเครือข่ายภาพเรดาร์สำนักงานฝนหลวง เรดาร์อมก๋อยและเรดาร์หัวหิน พบว่ามีฝนตกอย่างต่อเนื่องทางด้านตะวันตกของภาคเหนือตลอดแนวลงไปถึงภาคใต้ตอนบน โดยเฉพาะช่วง
วันที่ี่ 4-5 พ.ค. ที่มีฝนตกหนักเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากพายุดีเปรสชั่น และช่วงวันที่ 15-16 พ.ค. ที่มีฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุไซโคลน 01B

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
อมก๋อย หัวหิน

แผนภาพแสดงปริมาณฝนสะสมรายวัน โดย สถาบันวิจัยทหารเรืออเมริกา (์NARVAL)

1/5/2007

2/5/2007

3/5/2007

4/5/2007

5/5/2007

6/5/2007

7/5/2007

8/5/2007

9/5/2007

10/5/2007

11/5/2007

12/5/2007

13/5/2007

14/5/2007

15/5/2007

16/5/2007

17/5/2007

18/5/2007

19/5/2007

20/5/2007
mm.


จากแผนภาพฝนสะสมของ NASA พบว่าืช่วงวันที่ 1-7 พ.ค. 50 มีกลุ่มฝนกระจุกตัวกันค่อนข้างมากบริเวณทะเลอันดามัน ด้านตะวันตกของประเทศไทย ภาคใต้ตอนบน ภาคกลาง และอ่าวไทย หลังจากนั้นกลุ่มฝนกระจุกตัวลดลงเล็กน้อย และกลับมากระจุกตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้งเนื่องจากเกิดพายุไซโคลนในอ่าวเบงกอล ในช่วงวันที่ 11-15 พ.ค. หลังจากนั้นพายุได้อ่อนกำลังลง แต่ยังคงมีกลุ่มฝนกระจุกตัวกันในบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณภาคใต้ที่กลุ่มฝนกระจุกตัวกันค่อนข้างหนา

รายละเอียดเพิ่มเติม

การเปรียบเทียบปริมาณฝนเดือนพฤษภาคม
โดยใช้แผนภาพแสดงปริมาณฝนสะสมรายเดือนที่สังเคราะห์จากข้อมูลฝนของสถานีตรวจอากาศกรมอุตุนิยมวิทยา


เฉลี่ย 48 ปี (2493-2540)
(174.05 มม.)


2550
(270.53 มม.)
        จากแผนภาพแสดงปริมาณฝนสะสมเดือนพฤษภาคม ปี 2550 เปรียบเที่ยบกับแผนภาพแสดงปริมาณฝนสะสมค่าเฉลี่ย 48 ปี เดือนพฤษภาคม พบว่าเดือนพฤษภาคม 2550 มีปริมาณฝนสูงกว่าค่าเฉลี่ย 48 ปี ค่อนข้างมาก โดยเดือนพฤษภาคม 2550 มีฝนมากในพื้นที่ภาคเหนือ บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง แพร่ ตาก สุโ่ขทัีย พิษณุโลก ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออกทั้งตอนบนและตอนล่าง ภาคใต้ตอนบนและภาคใต้ตอนล่างในบางพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี


ข้อมูลปริมาณฝนสะสมรายวันจากสถานีตรวจอากาศกรมอุตุนิยมวิทยา
         รายงานข้อมูลปริมาณฝนสะสมรายวันจากสถานีตรวจอากาศกรมอุตุนิยมวิทยา
ช่วงเดือน พ.ค. 50 พบว่าช่วงวันที่ 2-4 พ.ค. มีปริมาณฝนค่อนข้างมากทางด้านตะวันตกของประเทศและทา่งภาคใต้ตอนบน โดยปริมาณฝนสะสมรายวันสูงสุด
อยู่ทีสถานีประจวบคีรีขันธ์ ตรวจวัดปริมาณฝน 199.8 มิลลิเมตร ในวันที่ 2 พ.ค. รายละเอียดเพิ่มเติม ดังตารางด้านล่าง


วันที่
สถานี
จังหวัด
ปริมาณฝนสะสมรายวัน(มม.) 
15/05/2007 เชียงราย เชียงราย                                89.3
ประจวบคีรีขันธ์ ประจวบคีรีขันธ์                                56.7
เชียงราย (1) เชียงราย                                52.7
14/05/2007 อุตรดิตถ์ อุตรดิตถ์                                66.3
ลพบุรี ลพบุรี                                62.3
ลำปาง (1) ลำปาง                                55.6
ประจวบคีรีขันธ์ ประจวบคีรีขันธ์                                50.7
13/05/2007 ท่าวังผา (2) น่าน                                68.5
12/05/2007 ระนอง ระนอง                                89.9
ตาก ตาก                                51.7
11/05/2007 อุตรดิตถ์ อุตรดิตถ์                                61.8
10/05/2007 กาญจนบุรี กาญจนบุรี                                93.9
ศูนย์สิริกิตต์ กรุงเทพมหานคร                                54.6
บางนา (1) กรุงเทพมหานคร                                52.6
ท่าเรือกรุงเทพฯ กรุงเทพมหานคร                                50.7
09/05/2007 ตาก ตาก                                97.3
เขื่อนภูมิพล ตาก                                58.3
08/05/2007 ตาก ตาก                                99.8
06/05/2007 นครสวรรค์ นครสวรรค์                                85.2
พิจิตร พิจิตร                                74.4
แม่สอด ตาก                                66.1
ดอยมูเซอ (1) ตาก                                56.2
สุโขทัย สุโขทัย                                55.4
05/05/2007 เขื่อนภูมิพล ตาก                                75.8
สุโขทัย สุโขทัย                                69.4
ชัยนาท ชัยนาท                                65.6
เชียงราย (1) เชียงราย                                54.4
แม่สอด ตาก                                53.5
เชียงราย เชียงราย                                53.0
04/05/2007 หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์                              162.0
หนองพลับ (1) เพชรบุรี                                73.1
ประจวบคีรีขันธ์ ประจวบคีรีขันธ์                                65.6
ราชบุรี (1) ราชบุรี                                63.1
ชุมพร ชุมพร                                62.5
เพชรบุรี เพชรบุรี                                57.4
03/05/2007 ราชบุรี (1) ราชบุรี                                98.2
พิจิตร พิจิตร                                97.2
ประจวบคีรีขันธ์ ประจวบคีรีขันธ์                                72.6
สุโขทัย สุโขทัย                                55.3
กำแพงแสน (1) นครปฐม                                51.1
02/05/2007 ประจวบคีรีขันธ์ ประจวบคีรีขันธ์                              199.8
ชุมพร ชุมพร                              137.2
หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์                                98.4
หนองพลับ (1) เพชรบุรี                                98.2
เขื่อนภูมิพล ตาก                                57.4
01/05/2007 หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์                                98.1
ชุมพร ชุมพร                                88.7
กำแพงเพชร กำแพงเพชร                                50.3
หมายเหตุ : รายงานเฉพาะปริมาณฝนสะสมรายวันที่ตรวจวัดได้เกิน 50 มิลลิเมตร
สีแดง หมายถึง ข้อมูลปริมาณฝนสะสมรายวัน ที่เกิน 100 มิลลิเมตร
สีส้ม หมายถึง ข้อมูลปริมาณฝนสะสมรายวัน ระหว่าง 80-99 มิลลิเมตร



ข้อมูลปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่จากกรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิต

ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯเขื่อนภูมิพล

ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯเขื่อนสิริกิติ์

ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯเขื่อนแม่งัด

ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯเขื่อนวชิราลงกรณ

ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯเขื่อนศรีนครินทร์

ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯเขื่อนแก่งกระจาน

          จากกราฟแสดงปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ เก็บน้ำขนาดใหญ่
ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลาง พบว่า ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ ในเดือนพ.ค. 50 เพิ่มขึ้นในทุกอ่าง โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพล ที่มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ สูงสุดอยู่ที่ 78.51 ล้านลูกบาศก์เมตร ในวันที่ 15 พ.ค. 50

ตารางและกราฟแสดงข้อมูลน้ำรายวันในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่


ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมแสดงพื้นที่น้ำท่วมจาก GISTDA (คลิ๊กที่ภาพเพื่อแสดงภาพใหญ่)


ข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม SPOT-4
แสดงพื้นที่น้ำท่วมวันที่ 18 พฤษภาคม 2550
เวลา 11.08 น. บริเวณบางส่วนของจังหวัด
นครสวรรค์ และกำแพงเพชร
ข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม SPOT-4
แสดงพื้นที่น้ำท่วมวันที่ 18 พฤษภาคม 2550
เวลา 11.08 น. บริเวณบางส่วนของจังหวัด
สุโขทัย

ข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม RADARSAT-1
แสดงพื้นที่น้ำท่วมวันที่ 19 พฤษภาคม 2550
เวลา 18.15 น. บริเวณบางส่วนของ
จังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ และอุตรดิตถ์

 
ข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม RADARSAT-1
แสดงพื้นที่น้ำท่วมวันที่ 29 พฤษภาคม 2550
เวลา 18.22 น. บริเวณบางส่วนของ
จังหวัดกำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และสุโขทัย
ข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม SPOT-4
แสดงพื้นที่น้ำท่วมวันที่ 30 พฤษภาคม 2550
เวลา 11.03 น. บริเวณบางส่วนของจังหวัด
สุโขทัย
 

รายงานเหตุการณ์พิบัติภัย อันเนื่องมาจากพายุดีเปรสชั่นและพายุไซโคลน โดย กรมทรัพยากรธรณี
1. สถานการณ์ 
           ด้วยพายุดีเปรสชั่น ซึ่งก่อตัวขึ้นบริเวณอ่าวไทยพัดผ่านจังหวัดชุมพร ลงสู่ทะเลอันดามัน ระหว่างวันที่ 28 เมษายน ถึง 5 พฤษภาคม 2550 และพายุไซโคลนซึ่งก่อตัวขึ้นในอ่าวเบงกอลได้ เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศพม่า ระหว่างวันที่ 14 ถึง 17 พฤษภาคม 2550 ทำให้เกิดพิบัติภัยในหลายพื้นที่ของประเทศ 
2. ปริมาณฝน 
          2.1 พายุดีเปรสชั่น ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้และภาคกลาง โดยที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ฝนตกหนักที่อำเภอเมือง ปริมาณฝนวัดได้ 200 มิลลิเมตร และที่อำเภอหัวหิน ปริมาณฝนวัดได้ 162 มิลลิเมตร 
          2.2 พายุไซโคลน ทำให้เกิดฝนตกหนักบริเวณด้านตะวันตกของประเทศ โดยที่จังหวัดแพร่ ฝนตกหนักที่อำเภอวังชิ้น ปริมาณฝนวัดได้ 107.5 มิลิเมตร จังหวัดเชียงราย ฝนตกหนักที่อำเภอเมือง ปริมาณฝนวัดได้ 89.3 มิลลิเมตร
3. ความเสียหาย
          3.1 น้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมขัง
                 - พายุดีเปรสชั่น ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ของจังหวัดประจวบ คีรีขันธ์ ชุมพร สมุทรสาคร พิจิตร และนครสวรรค์
                 - พายุไซโคลน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ของจังหวัดแพร่ อุทัยธานี พิจิตร และสุพรรณบุรี
3.2 ธรณีพิบัติภัย
                 - ดินไหล เกิดขึ้นข้างทางบริเวณเขาคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
                 - ดินไหล ทับเส้นทางที่ตำบลแม่พูล อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์
                 - รอยดินแยกและสะพานทรุดตัวบนถนนสายผามูบ-บ่อแก้ว อำเภอลับแลจังหวัดอุตรดิตถ์
                 - หินร่วง เกิดขึ้นบนเกาะเหลาเหลียง ตำบลเกาะสุกร อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง มีผู้เสียชีวิต 1 คน
4. การดำเนินการป้องกันของกรมทรัพยากรธรณี
          4.1 ออกประกาศกรมทรัพยากรธรณี ฉบับที่ 2/2550 ถึงฉบับที่ 6 เรื่องเตือนให้ประชาชนระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากจากพายุดีเปรสชั่น บริเวณภาคใต้ของประเทศไทย
          4.2 ออกประกาศกรมทรัพยากรธรณี ฉบับที่ 7/2550 ถึง ฉบับที่ 9/2550 เรื่องเตือนให้ประชาชนระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากจากพายุไซโคลนบริเวณ ด้านตะวันตกของประเทศ
          4.3 ประสานไปยัง ทสจ. ที่เกี่ยวข้อง และอาสาสมัครเฝ้าระวังภัยดินถล่มกรมทรัพยากรธรณี ให้มีการเตรียมพร้อมเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
          4.4 ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบรอยดินแยก และสะพานทรุดตัวบนถนนสายผามูบ-บ่อแก้วอำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์

     

ข่าวจากหนังสือพิมพ์

--------------------------------------------------------------------------------------
ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอนประกาศเตือนหมู่บ้านเสี่ยงดินโคลนถล่ม [ ผู้จัดการออนไลน์ : 18 พ.ค. 50 ]

แม่ฮ่องสอน - ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน พบหมู่บ้านเสี่ยงดินโคลมถล่มรุนแรง 83 หมู่บ้าน และมีหมู่บ้านเสี่ยงอีก 156 หมู่บ้านผู้ว่าฯสั่งเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด
       

        นายดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการจงหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้วิทยุด่วนที่สุดที่ มส 0017/238 ลงวันที่ 16 พฤษภาคม 2550 ให้นายอำเภอ 7 อำเภอแจ้งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประกาศเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากฝนตกหนัก มาก จึงอาจก่อให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำท่วมขังและดินโคลนลื่นไถล ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาและที่ลุ่มลำน้ำ ตลอดจนให้ติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวให้ทางอำเภอแจ้งให้จังหวัดทราบโดยด่วน เพื่อที่จังหวัดจะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือ โดยด่วน
       
        ทางด้าน นายคมสัน สุวรรณอัมพา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนปรากฏว่า มีหมู่บ้านเสี่ยงภัยดินโคลนถล่ม 7 อำเภอ 38 ตำบล เป็นหมู่บ้านเสี่ยงภัยรุนแรง จำนวน 83 หมู่บ้าน หมู่บ้านเสี่ยงภัยปานกลางจำนวน 115 หมู่บ้าน และหมู่บ้านเสี่ยงภัยเล็กน้อย จำนวน 41 หมู่บ้าน
       
        ทั้งนี้ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เฝ้าระวังภัยธรรมชาติตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้แล้วยังประสานไปยังผู้นำชุมชนในทุกหมู่บ้านให้เฝ้าระวังเหตุการณ์ ดังกล่าวตลอดเวลาโดยเฉพาะเมื่อมีฝนตกลงมาในพื้นที่ติดต่อกันนานตั้งแต่ 1 ชั่วโมงขึ้นไปให้เตรียมความพร้อม


--------------------------------------------------------------------------------------
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 5 (161/2550) เรื่อง พายุไซโคลนในอ่าวเบงกอล
เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (15 พ.ค. 50) พายุไซโคลน “01B” ได้เคลื่อนตัวขึ้นสู่บริเวณชายฝั่งของประเทศพม่าแล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า ห่างประมาณ 700 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 21.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 92.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางเหนือค่อนทางตะวันออก ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลักษณะดังกล่าวจะทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยยังคงมีฝนชุกกับมีฝนตกหนัก บางพื้นที่ โดยเฉพาะด้านตะวันตกของภาคบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี ระนองและพังงา จึงขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในจังหวัดดังกล่าวระมัดระวัง อันตรายจากน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันที่อาจจะเกิดขึ้นในวันที่ 15-16 พฤษภาคม 2550 สำหรับชาวเรือในอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเพิ่มความระมัดระวังการ เดินเรือ เรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในระยะ 1-2 วันนี้

--------------------------------------------------------------------------------------
ประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ฉบับที่ 2 (16/2550)เรื่อง พายุไซโคลนในอ่าวเบงกอล
เมื่อ เวลา 10.00 น. วันนี้ (14 พ.ค. 50) พายุไซโคลน “01B” ในอ่าวเบงกอลตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ทางตะวันตกของกรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า ห่างประมาณ 550 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 16.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 91.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะมีกำลังแรงขึ้นและเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศพม่าในวันพรุ่งนี้ ( 15 พ.ค. 50 ) ส่งผลให้ร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านประเทศไทยตอนบน กับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือมีฝนตกชุกหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน  เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย และ กำแพงเพชร  เตรียมพร้อมป้องกัน เฝ้าระวังภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นได้จากฝนตกหนักถึงหนักมาก  ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำท่วมขัง และดินโคลนลื่นไถลในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา และที่ลุ่มลำน้ำ ตลอดจนติดตามสภาพอากาศที่หมายเลขโทรศัพท์  053-277919  ,  053-922365  และ 053-281271  และพื้นที่ฝนตกจากเรดาร์ตรวจอากาศ ใน www.cmmet.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 

--------------------------------------------------------------------------------------
กทม.เฝ้าติดตามสถานการณ์และผลกระทบจากไซโคลน [ ผู้จัดการออนไลน์ : 15 พ.ค. 54 ]
        นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีพายุไซโคลนที่ขึ้นฝั่งประเทศพม่าส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกทั่ว ประเทศนั้น กรุงเทพมหานครได้สั่งการให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยในส่วนที่เกี่ยวข้องให้ติดตามสถานการณ์พายุดังกล่าวอย่างใกล้ชิดเพื่อ ประเมินข้อมูลว่าจะส่งผลกระทบต่อจังหวัดใกล้เคียง และจะมีผลต่อกรุงเทพฯ อย่างไร โดยให้สรุปผลทั้งหมดเป็นรายงานเข้าที่ประชุมผู้บริหารกรุงเทพมหานครใน สัปดาห์หน้า เพื่อวางมาตรการพิเศษต่อไปหากพายุดังกล่าวมีผลกระทบหนักต่อพื้นที่กรุงเทพฯ
        อย่างไรก็ตาม ระหว่างเก็บรวบรวมข้อมูลได้สั่งการให้ทุกเขตตรวจสอบพื้นที่อย่างเข้มงวด เร่งลอกคูคลองและท่อระบายน้ำให้แล้วเสร็จทุกจุด เพื่อรับปริมาณฝนที่จะตกลงมาในช่วงฤดูฝนนี้ไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซาก


--------------------------------------------------------------------------------------
น้ำท่วมอุทัยธาน [ กรุงเทพธุรกิจ : 15 พ.ค. 50]
อุทัยธานีน้ำป่าหลากท่วมบ้านกว่า 100 หลังคาเรือน 16:05 น.สถานการณ์น้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ ที่ไหลบ่าลงสู่แม่น้ำแควตากแดด จังหวัดอุทัยธานี ส่งผลให้ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และทะลักท่วมพื้นที่การเกษตรกว่า 1,000 ไร่ และบ้านเรือนราษฎรอีกกว่า 100 หลังคาเรือน ในตำบลโคกหม้อ ตำบลหนองยายดา อำเภอทัพทัน โดยเฉพาะหมู่ 2 และ 3 ตำบลโคกหม้อ ระดับน้ำสูง 1 เมตร นอกจากนี้ ถนนทางเข้าหมู่บ้านถูกกัดเซาะเสียหายไม่สามารถสัญจรได้
ด้าน พ.อ.สาธิต พิธรัตน์ รองเสนาธิการกองทัพภาคที่ 3 เรียกประชุมหน่วยทหารและโรงพยาบาลค่ายทหาร 10 แห่ง ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ และผู้เกี่ยวข้องที่กองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จังหวัดพิษณุโลก เพื่อเตรียมพร้อมในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 9 พิษณุโลก เร่งอบรมอาสาสมัคร 1 ตำบล 1 ทีมกู้ภัย ในพื้นที่เสี่ยง 6 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อเสริมทีมอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ที่มีอยู่ 15,000 คน นอกเหนือจากมิสเตอร์เตือนภัยในแต่ละตำบล 1,800 ราย ที่ทำหน้าที่วัดปริมาณน้ำฝนและคอยแจ้งเตือนภัย 


--------------------------------------------------------------------------------------
จ.ตาก เตือนระวังน้ำป่า ห้ามเล่นน้ำตก-ล่องแก่ง [ ผู้จัดการออนไลน์ : 6 พ.ค. 50 ]
 นายชุมพร พลรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ในฐานะประธานอำนวยการศูนย์ป้องกันอุบัติภัย จ.ตาก กล่าวว่า จากการที่พายุฝนได้ตกหนักติดต่อมาหลายวันในพื้นที่ 5 อำเภอชายแดนจากพม่า จ.ตาก ประกอบด้วย อ.แม่สอดแม่ระมาด พบพระ ท่าสองยาง และอุ้มผาง ฝ่ายปกครองจึงประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนทั่วไป รวมทั้งนักท่องเที่ยวให้ระวังน้ำป่าไหลหลาก หากไม่จำเป็นควรงดเข้าไปท่องเที่ยวทางน้ำตก เช่น น้ำตกทีลอซู ต.อุ้มผาง น้ำตกพาจริญและน้ำตกนางครวญ ของอ.พบพระ การล่องแก่งน้ำห้วยแม่ละเมา อ.แม่สอด และล่องแก่งในน้ำแม่กรอง อุ้มผาง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยดินและน้ำป่าถล่ม
        ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังขอให้ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาตามเส้นทางถนนสายตัดแม่สอด และถนนบริวณเส้นทางเชื่อมต่อ 5 อำเภอชายแดนใช้ระมัดระวังในการเดินทาง เพราะถนนลื่นทัศนะวิสัยไม่ดี ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ประกอบกับระหว่างเดินทางนั้น ให้ระวังข้างทางอาจเกิดดินและหินจากหุบเขาสไลด์ลงมาทับเส้นทาง และในช่วงที่มีสะพานเชื่อมต่อเส้นทางนั้นให้ระวังคอสะพานหัก อันจะนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเวลาในโอกาสที่ฝนตกหนัก

--------------------------------------------------------------------------------------
แม่ฮ่องสอนทุกอำเภอเตรียมรับมือพายุดีเปรสชั่น [ ผู้จัดการออนไลน์ : 2 พ.ค. 50 ]
แม่ฮ่องสอน - ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน สั่งการด่วนทุกอำเภอเตรียมรับมือพายุดีเปรสชัน พร้อมเร่งประสานท้องถิ่นดูแลพื้นที่เสี่ยงภัยและอพยพ 24 ชั่วโมง ด้านอุตุนิยมวิทยาเตือนประชาชนรับมือน้ำท่วมฉับพลัน

นายดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ตามที่สถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดแม่ฮ่องสอน แจ้งว่า ระหว่างวันที่ 3-4 พฤษภาคม 2550 บริเวณภาคเหนือมีฝนตกมากขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน นั้น
ล่าสุด ได้สั่งการให้นายอำเภอ 7 อำเภอ เตรียมความพร้อมเคลื่อนย้ายราษฎรที่อยู่ในพื้นที่เสียงภัยที่คาดว่าจะเกิด ดินถล่ม และอยู่ในพื้นที่ห่างไกล โดยให้ทางอำเภอประสานงานกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้าน นายธาดา ศรัทธา หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เรื่องพายุดีเปรสชันในอ่าวไทย ได้เคลื่อนตัวผ่านภาคใต้บริเวณจังหวัดชุมพร ลงสู่ทะเลอันดามันแล้วโดยเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (2 พ.ค.) มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากจังหวัดชุมพรไปทางทิศตะวันตกประมาณ 300 กิโลเมตร ที่ละติจูด 11. 3 องศา เหนือ ลองติจูด 95.3 องศาตะวันตก มีความเร็วลมสูงใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

โดยพายุกำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนทางเหนือมากขึ้น และเคลื่อนตัวเข้าใกล้ภาคเหนือของประเทศไทย ในระหว่างวันที่ 3-4 พฤษภาคม 2550 ลักษณะดังกล่าวจะทำให้บริเวณ ด้านตะวันตกตั้งแต่ภาคเหนือลงมาถึงภาคกลางฝนตกเพิ่มมากขึ้นฝนตกหนักถึงหนัก มากได้บางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสียงภัยบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก กำแพงเพชร อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วง เวลาดังกล่าว


--------------------------------------------------------------------------------------
ประกาศเตือนภัย "พายุดีเปรสชั่น"  ฉบับที่ 14 (140 / 2550) ลงวันที่ 02 พฤษภาคม 2550
พายุดีเปรสชั่นในทะเลอันดามัน เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (2 พ.ค. 50) มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากจังหวัดชุมพรไปทางตะวันตกประมาณ 350 กิโลเมตร หรือ ที่ละติจูด 11.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 95.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้ยังคงเคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนทางเหนือด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ภาคเหนือของประเทศไทย ในช่วงวันที่ 3-4 พฤษภาคม 2550 ลักษณะดังกล่าว ทำให้บริเวณด้านตะวันตกตั้งแต่ภาคเหนือลงมาถึงภาคกลางมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากได้บางพื้นที่บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก กำแพงเพชร อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดดังกล่าว 
ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ไว้ด้วย สำหรับภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะยังคงมีฝนตกหนาแน่นต่อไปอีกจนถึงวันที่ 3 พฤษภาคม 2550 ส่วนภาคใต้โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และภูเก็ต บริเวณที่มีฝนตกหนักสะสมมาก่อนยังคงต้องระมัดระวังสภาวะน้ำท่วมต่อไปอีก 1-2 วัน หลังจากนั้นปริมาณฝนจะลดลง และคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง โดยจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติในวันพรุ่งนี้ (3 พ.ค. 50) ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันยังคงมีกำลังแรงต่อไปอีก 2-3 วัน


--------------------------------------------------------------------------------------
ผวาน้ำป่าไหลหลากปิด 6น้ำตก อุตุฯเตือนใต้-กลางฝนตกหนัก[คมชัดลึก : 3 พฤษภาคม 2550 07:29 น.]

น้ำป่าถล่มหมู่บ้านบางสะพาน หวั่นตกหนักอีก 2 วัน น้ำป่าเทือกเขาตะนาวศรีทะลัก สั่งปิด 6 น้ำตก อุตุฯ ชี้ใต้-กลาง-ตะวันออกรับมือตกหนัก 

สถานการณ์พายุดีเปรสชันเคลื่อนตัวเข้าสู่จังหวัดชายฝั่งอันดามัน และถล่มพื้นที่ภาคใต้เป็นเหตุให้พื้นที่หลายจังหวัดประสบปัญหาน้ำท่วมฉับ พลัน บ้านเรือนถูกพัดเสียหายยังคงน่าห่วง เนื่องจากมีรายงานว่าหลายพื้นที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ตั้งแต่เวลา 02.00 น. พายุดีเปรสชันเคลื่อนตัวเข้าสู่จังหวัดชายฝั่งอันดามัน ซึ่งอิทธิพลของพายุดีเปรสชัน ทำให้พื้นที่ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง นครศรีธรรมราช ชุมพร และ ประจวบคีรีขันธ์ ถูกพายุฝนตกถล่มต่อเนื่องเบื้องต้นรับรายงานว่า หลายพื้นที่มีน้ำท่วมขัง เนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน 

ประจวบฯ น้ำป่าพัดบ้านเรือนพัง 

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 พฤษภาคม มีรายงานว่าฝนตกหนักที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ อ.บางสะพาน-หัวหิน ถูกพายุฝนพัดกระหน่ำอย่างหนักเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลเข้าท่วมในหลายหมู่บ้านของ ต.ธงชัย อ.บางสะพาน บ้านเรือนประชาชนเสียหายกว่า 10 หลังคาเรือน นอกจากนี้ บริเวณถนนเพชรเกษมฝั่งขาขึ้นกรุงเทพฯ ช่วงตั้งแต่หน้าซอยหัวหิน 102 จนถึงหน้าโรงเรียนหัวหินวิทยาลัย มีน้ำท่วมบนผิวการจราจรสูง 30-50 ซม. เป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร ทำให้การจราจรชะลอตัว รถยนต์ใช้ช่องการจราจรได้เพียงช่องเดียว ส่วนเส้นทางอื่นสามารถใช้การได้ตามปกติ 

นายจีรวุฒิ แจวสกุล นายกเทศมนตรีตำบลบ้านกรูด กล่าวว่า ได้ระดมเจ้าหน้าที่ออกช่วยเหลือประชาชน อพยพขนย้ายข้าวของขึ้นไปอยู่ในที่สูงเป็นการเร่งด่วนแล้ว เนื่องจากฝนยังตกหนัก เกรงว่าหากยังมีฝนตกต่อเนื่องเช่นนี้อีก 1-2 วัน จะทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรีไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน 

ปิดน้ำตกป่าละอูชั่วคราว 

ขณะเดียวกัน นายชุมพล แก้วเกตุ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี กล่าวว่า ขณะ นี้ฝนตกหนักในเขตพื้นที่อุทยานแก่งกระจาน โดยเฉพาะบริเวณน้ำตกป่าละอู ซึ่งตอนนี้น้ำป่าไหลลงสู่น้ำตกป่าละอู ทำให้น้ำตกมีสีขุ่น และไหลเชี่ยวกราก ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจึงต้องประกาศปิดการเข้าชมน้ำตกเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 4 พฤษภาคม 

ด้านนายประสงค์ พิทูรกิจจา ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ทหารกองบิน 5 ศูนย์ทหารราบ ตำรวจตระเวนชายแดน โรงพยาบาล สถานที่ราชการ หน่วยอาสาสมัครและมูลนิธิ เตรียมพร้อมช่วยเหลือและรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉินแล้ว ขณะ นี้อ่างเก็บน้ำต่างๆ เก็บน้ำไปแล้ว 80% ยังเหลือความจุน้ำได้อีก 20% ถ้าฝนตกอีก 2 วัน ยังพอรับได้ แต่หากฝนตกติดต่อกันหลายวัน คงรับไม่ไหวต้องระบายออก 

ชุมพร 8 อำเภอเสี่ยงภัย 

ขณะที่ จ.ชุมพร นายพินัย อนันตพงศ์ ผู้ว่าฯ ชุมพร กล่าวว่า ขณะนี้มีคำสั่งด่วนถึงนายอำเภอทุกอำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ให้เตรียมความพร้อมในการรับมือจากภาวะฝนตกหนักดังกล่าว พร้อมทั้งขอให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมรับมือ หากพื้นที่ใดมีปริมาณน้ำฝนผิดปกติ ขอให้พิจารณาอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยที่ต้องเฝ้าระวัง 232 หมู่บ้าน ใน 8 อำเภอของ จ.ชุมพร ได้ทันที และมีคำสั่งห้ามเรือเล็กทุกประเภทออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด 

นครศรีฯ คุมเข้ม 5 น้ำตก 

ส่วนที่ จ.นครศรีธรรมราช นายประพันธ์ กาใจทราย หัวหน้าส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ 5 ซึ่งดูแลพื้นที่ป่าและลำธารน้ำตกทั้ง จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ขณะนี้ทุกพื้นที่อุทยานเฝ้าระวังสถานการณ์เป็นพิเศษ พร้อมมีคำสั่งห้ามเจ้าหน้าที่ออกนอกพื้นที่โดยเด็ดขาด โดยเฉพาะบริเวณเขตน้ำตกต้องติดตามลักษณะทางกายภาพตลอด 24 ชั่วโมง คือ ลำธารอยู่ในหุบเขา ได้แก่ น้ำตกพรหมโลก น้ำตกอ้ายเขียว น้ำตกกรุงชิง น้ำตกสุนันทา และน้ำตกโยง ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ หากพบว่าน้ำเปลี่ยนสีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ให้รีบแจ้งเตือนส่วนที่เกี่ยวข้องทันที 

เตือนใต้-กลาง-ตะวันออกรับมือ 

วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศเตือนภัยกรณี "พายุดีเปรสชันในอ่าวไทย" ฉบับที่ 11 (137/2550) ลงวันที่ 2 พฤษภาคม ระบุว่า เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 2 พฤษภาคม พายุดีเปรสชันมีศูนย์กลางอยู่บริเวณชายฝั่งประเทศพม่า หรือห่างจาก อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ไปทางตะวันตกประมาณ 75 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 10.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 98.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกอย่างช้าๆ คาดว่าจะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลอันดามันตอนบนในวันที่ 2 พฤษภาคม 

อย่างไรก็ตาม ลักษณะดังกล่าวจะยังคงทำให้บริเวณภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกชุกหนาแน่นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันได้ ที่ จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร จ.ระนอง จ.พังงา จ.ภูเก็ต จ.ตรัง จ.สตูล จ.กาญจนบุรี และ จ.ราชบุรี จึงขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดที่กล่าวมาระมัดระวัง อันตรายจากภัยธรรมชาติในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนกลางมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง 
ส่วนพื้นที่ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ส่วนมากบริเวณ จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช และ จ.พัทลุง อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานีขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชลงไปคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณ จ.ระนอง จ.พังงา จ.ภูเก็ต จ.ตรัง และ จ.สตูล ทะเลมีคลื่น 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2-3 เมตร 

เตือน 10 จังหวัดระวังภัยดินถล่มน้ำป่า 
ด้านนายอภิชัย ชวเจริญพันธ์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า จากประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาเรื่องพายุดีเปรสชันแถวอ่าวไทยตอนบน ขณะนี้กรมทรัพยากรธรณีได้ออกประกาศเตือนประชาชนในเขตพื้นที่ภูเขาสูงหุบเขา และหมู่บ้านเสี่ยงภัยดินถล่ม ภาคใต้และภาคตะวันตกบริเวณ จ.กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียง โดยเฉพาะในเขต อ.บางสะพาน อ.บางสะพานน้อย อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ อ.เมือง อ.ท่าแซะ อ.ปะทิว จ.ชุมพร อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี อ.ลานสกา อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ให้เฝ้าระวังภัยจากดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในช่วง 1-3 วันนี้ 

กรมอุตุฯชี้ดีเปรสชันก่อตัวผิดปกติ 
นายศุภฤกษ์ ตันศรีรัตนวงศ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า จากสถิติของพายุที่พัดผ่านเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งกลุ่มภูมิอากาศ สำนักพัฒนาอุตุนิยมวิทยา เก็บสถิติไว้ระหว่างปี 2494-2549 มีพายุดีเปรสชันที่พัดเข้ามาประเทศไทยเพียง 1 ลูกในช่วงเดือนเมษายน 2504 หรือเมื่อ 46 ปีที่ผ่านมา และส่วนใหญ่จะพัดเข้ามาในประเทศไทยในช่วงเดือนพฤษภาคมมาเพียง 6 ลูก โดยส่วนใหญ่จะก่อตัวแถวทะเลจีนใต้และพัดผ่านมาในไทย ส่วนดีเปรสชันที่เกิดขึ้นในขณะนี้มีการก่อตัวในแถบอ่าวไทย ทั้งที่ปกติการเกิดพายุช่วงนี้น่าจะเป็นแถวอันดามัน ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่ง ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (START) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า พายุดีเปรสชันที่เกิดขึ้นในขณะนี้เชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากสภาพอากาศแปรปรวน ของช่วงปีนี้ โดยสันนิษฐานว่าความผิดปกติของกระบวนการเกิดมาจากหย่อมความกดอากาศต่ำในอ่าว ไทยที่รวมตัวกันและขยายเป็นวงขนาดใหญ่เป็นดีเปรสชัน ซึ่งเป็นความผิดปกติ เนื่องจากพายุหมุนเขตร้อนจะมาจากทะเลจีนใต้ที่พัดเข้าไทยในช่วงเดือน กันยายน-ตุลาคม แต่พายุลูกนี้ฟอร์มตัวในอ่าวไทย และยังมาผิดฤดูกาลผิดช่วงเวลา อย่างไรก็ตาม ถ้าพายุเคลื่อนขึ้นบกลดความแรงลงได้ แต่หากลงทะเลน่าเป็นห่วง 

--------------------------------------------------------------------------------------
สั่งเฝ้าระวัง 4หมู่บ้านเสี่ยง ถูกน้ำป่าถล่ม-จากอิทธิพลพายุ [ 3 พ.ค. 50 ]

สั่งเฝ้าระวัง 4 หมู่บ้านหลังดอยอินทนนท์เสี่ยงถูกน้ำป่าถล่มจากอิทธิพลดีเปรสชั่น ระบุจุดเสี่ยงพื้นที่สีแดง 113 จุด ด้านปภ.เชียงใหม่ ออกประกาศเตือนภัยพายุดีเปรสชั่น พร้อมให้ประชาชนคอยเฝ้าระวังภัยธรรมชาติอันเกิดจากฝนที่ตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่เสี่ยงภัย 

(3พค.) นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ นายอำเภออมก๋อย จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับการแจ้งเตือนจากจังหวัด ให้เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากบ่อยครั้ง อีกทั้งยังมีพื้นที่ติดกับอำเภอท่าสองยาง จ.ตาก และ จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งจะต้องได้รับอิทธิพลจากดีเปรสชั่นระหว่างวันที่ 3 - 4 พ.ค.นี้ตามประกาศเตือนของศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ 
โดย ได้กำชับไปยังทุกตำบลให้จัดเวรยามเฝ้าระวังและ ตรวจวัดปริมาณน้ำฝนจากอุปกรณ์วัดปริมาณน้ำฝนที่ได้ติดตั้งไปก่อนหน้านี้ อย่างใกล้ชิด รวมทั้งจัดเตรียมพื้นที่ปลอดภัยและซักซ้อมแผนอพยพราษฎรเพื่อสามารถปฏบิติได้ ทันทีหากเกิด เหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น 

นายอำเภออม ก๋อย กล่าวว่า พื้นที่บนภูเขาสูงไม่น่าเป็นห่วงมากนัก เนื่องจากมีสิ่งบอกเหตุหลายอย่างที่ชาวเขาทราบกันดี แต่พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศาคือพื้นที่ราบ โดยเฉพาะตำบลแม่ตื่นและตำบลอื่น ๆ ที่อยู่ทางตอนใต้ของอำเภอ ซึ่งพื้นที่เหล่านี้มีความเสี่งต่อการรับน้ำป่าไหลหลากจากภูเขาที่อยู่รอบ ด้าน ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้ทุกพื้นที่ตื่นตัวเป็นพิเศษในช่วงกลางคืนที่ ชาวบ้านกำลังหลับไม่ทันระวังตัว 
ด้านนายบุญ เกื้อ คุณธารกุล ปลัดอาวุโส อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ได้เรียก ประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน เพื่อให้มีการเฝ้าระวังน้ำป่าที่อาจจะไหยหลากด้วยเช่นกัน โดย เฉพาะในพื้นที่เสี่ยง คือ หมู่บ้านตามเชิงเขาด้านหลังของดอยอินทนนท์ จำนวน 4 หมู่บ้าน ใน ต.ช่างเคิ่ง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าว หากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องเกินกว่า 3 ชั่วโมง จะมีความเสี่ยงกับน้ำป่าไหลหลากจากดอยอินทนนท์ ขณะเดียวกันยังมีพื้นที่ในหมู่บ้านกุยใต้ ต.ปางหินฝน ที่เกิดน้ำท่วมฉับพลัน จนต้องอพยพชาวบ้านครึ่งหมู่บ้านออกไปอยู่ในที่ปลอดภัยกระทันหัน 
สำหรับ มาตรการรับมือน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันในปีนี้ นอกจากเฝ้าดูปริมาณน้ำ ฝนจากอุปกรณ์ตรวจวัดที่ติดตั้งตามจุดเสี่ยงแล้ว ในปีนี้แต่ลำตำบลยังมีการจัดชุดเตรียมพร้อม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เพื่อเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันทีหลังเกิดเหตุ 

ทั้ง นี้ข้อมูลจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ระบุพื้นที่ เสี่ยงภัยน้ำป่าไหลหลากและโคลนถล่ม ว่ามีพื้นที่สีแดงหรือพื้นที่เสี่ยงสูงสุดอยู่ใน 19 อำเภอ รวม 113 จุด ในจำนวนนี้อำเภอเชียงดาวมีจุดเสี่ยงภัยสีแดงมากสุดจำนวน 18 จุด อย่างก็ตาม พื้นที่เสี่ยงภัยทั้งหมดทั้งพื้นที่สีแดง สีเหลือง และสีเขียว ใน 19 อำเภอ ได้มีการติดตั้งไซเรนไป แล้วจำนวน 212 เครื่อง เครื่องวัดปริมาณน้ำฝน 186 เครื่อง และมีมิสเตอร์เตือนภัยรวม 718 คน 

ด้าน นายประจญ ปรัชญ์สกุล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและปราบปรามบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ด้วยศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ แจ้งว่าพายุดีเปรสชั่นในทะเลอันดามันจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ภาคเหนือด้านตะวัน ตก ในช่วงวันที่ 3-5 พฤษภาคม 2550 จึงส่งผลให้บริเวณภาคเหนือมีฝนตกมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลาย พื้นที่ของภาคเหนือรวมทั้งจังหวัดเชียงใหม่ด้วย ทาง ปภ.จังหวัดเชียงใหม่ ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงได้ออกประกาศแจ้งเตือน เรื่องฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคเหนือ ให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมรับมือกับพายุดีเปรสชั่น โดยขอให้ประชาชนและเกษตรกร บริเวณภาคเหนือตอนบนและในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เตรียม พร้อมป้องกันเฝ้าระวังภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นได้จากฝนที่ตกหนักถึงหนัก มาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำท่วมขังและดินโคลนถล่มลื่นไถลในพื้นที่เสี่ยงภัย ตามที่ลาดเชิงเขาและที่ราบลุ่มแม่น้ำ นอก จากนี้ ยังให้ประชาชนติดตามสภาพอากาศ จากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือตลอดเวลา และหากเกิดเหตุสาธารณภัยเนื่องจากฝนที่ตกหนักถึงหนักมาก ให้รายงานเหตุด่วนมายังกองอำนวยการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนจังหวัดเชียงใหม่ โดยด่วน เพื่อดำเนินการช่วยเหลือต่อไป 

--------------------------------------------------------------------------------------

เตือนภัยพายุดีเปรสชั่น เหนือ-กลางฝนตกชุก[ ผู้จัดการออนไลน์ : 5 พ.ค. 50 ]
กรมอุตุนิยมวิทยาประเทศเตือนภัยพายุดีเปรสชั่น - เมื่อเวลา 04.00 น.วันนี้ (5 พฤษภาคม 2550) พายุดีเปรสชั่นบริเวณประเทศพม่า มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากจังหวัดตากไปทางตะวันตก ประมาณ 390 กิโลเมตร หรือ ที่ละติจูด 17.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 95.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้เคลื่อนตัวทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

คาดว่า พายุนี้มีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงในระยะต่อไป ลักษณะดังกล่าวจะทำให้บริเวณด้านตะวันตก ภาคเหนือ และภาคกลางของประเทศไทย มีฝนตกเพิ่มมากขึ้นโดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่บริเวณจังหวัด แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ตาก ลำปาง ลำพูน แพร่ น่าน พะเยา พิษณุโลก อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท และกาญจนบุรี จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดดังกล่าวระมัดระวังอันตราย จากน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากที่อาจเกิดขึ้นในวันที่ 5-6 พฤษภาคม 2550 ไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนยังคงมีกำลังแรงโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ต่อไปอีก 1-2 วัน ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ

--------------------------------------------------------------------------------------
นอภ.ฝางหวั่นน้ำป่าตั้งศูนย์เฉพาะกิจรับมือน้ำท่วม [ คมชัดลึก : 5 พ.ค. 50 ]
อุตุฯเหนือ เตือนมีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคเหนือ บริเวณดอยอ่างขาง อ.ฝางฝนตกหนักมาก วัดได้ 105.1 ม.ม. นอภ.เผยพร้อมตั้งศูนย์ป้องกันภัยรับมือเหตุร้าย จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง 
(5พค.) ว่าที่ร.ต.ปรีชา จินต์ธนาวัฒน์ เวรพยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 5 พ.ค.พายุดีเปรสชั่น มีศูนย์กลางอยู่ห่างจาก จ.ตากไปทางตะวันตก ประมาณ 390 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด17.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 95.5องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 50กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุเคลื่อนตัวทางตะวันออกเฉียงเหนือด้วยความเร็วประมาณ 10กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะอ่อนกำลังลงในระยะต่อไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นโดยมีฝนตกหนักถึงหนัก มากได้ 
ทั้งนี้ปริมาณน้ำฝนในระยะเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านบริเวณ อ.เมืองเชียงราย มีปริมาณน้ำฝน 53.0 มิลลิเมตร อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย มีปริมาณน้ำฝน 61.2 มิลลิเมตร อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำฝน 84.0 มิลลิเมตร และสถานีอุตุนิยมวิทยาดอยอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ มีฝนตกหนักมากปริมาณน้ำฝน 105.1มิลลิเมตร จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและ น้ำป่าไหลหลากที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ไว้ด้วย 
ด้านนายอดุลย์ ทรงชัยกุล นายอำเภอฝาง กล่าวว่า ขณะนี้ในพื้นที่ อ.ฝาง มีฝนตกหนักในคืนที่ผ่านมา ทางอำเภอได้จัดตั้งศูนย์ป้องกันภัยขึ้นเพื่อเตรียมรับมือกับเหตุที่อาจจะ เกิดขึ้นทั้งโคลนถล่ม,น้ำป่าไหลหลาก โดยเฝ้าระวังบริเวณบ้านยาง ต.แม่งอน ซึ่งเคยเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากเมื่อปีที่ผ่านมาถือเป็นพื้นที่เสี่ยงและได้ ประสานไปยัง ผู้ใหญ่บ้าน กำนันและองค์การบริหารส่วนตำบลต่างๆ ล่าสุดยังไม่มีรายงานเหตุอุทกภัยต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ออกทำการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้กับราษฏรที่อยู่ใน พื้นที่เสี่ยงภัยให้จัดการทรัพย์สินต่างๆและเตรียมตัวรับมือกับเหตุร้ายไว้ แล้ว


--------------------------------------------------------------------------------------
ประกาศกรมทรัพยากรธรณีฉบับที่6/2550 เตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังภัยดินถล่ม และน้ำป่าไหลหลากบริเวณพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันตก
นายอภิชัย ชวเจริญพันธ์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอให้ประชาชนในพื้นที่ภูเขาสูง หุบเขาและหมู่บ้านเสี่ยงภัยดินถล่ม บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ สุโขทัย ตาก และจังหวัดใกล้เคียง โดยเฉพาะที่อาศัยอยู่ในเขตเทือกเขาถนนธงชัย ผีปันน้ำ ดอยอินทนนท์ ลุ่มน้ำขานและในเขตอำเภอแม่สะเรียง สบเมย แม่ลาน้อย ขุนยวม ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอแม่แจ่ม สะเมิง ฮอด อมก๋อย ฝาง ไชยปราการ แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอแม่จัน แม่ฟ้าหลวง แม่สรวย เวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย อำเภอลี้ ทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย อำเภอแม่สอด แม่ระมาด ท่าสองยาง จังหวัดตาก (แผนที่แนบ) ตรวจเฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า พายุดีเปรสชั่นจะทำให้เกิดฝนตกหนักและต่อเนื่องในพื้นที่ภาคเหนือและตะวันตก พร้อมทั้งให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง ซึ่งอาจเกิดดินไหลมาปิดทับเส้นทางหรือหินร่วงจากหน้าผาข้างถนน พร้อมทั้งให้อาสาสมัครเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยดินถล่มของกรมทรัพยากรธรณี เฝ้าระวังภัยอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด

--------------------------------------------------------------------------------------
ดีเปรสชั่นเคลื่อนขึ้นเหนือ เตือน 7 จังหวัดภาคกลาง-เหนือ รับมือน้ำท่วม

ดีเปรสชั่นเคลื่อนตัวขึ้นเหนือ เตือน 7 จังหวัดภาคกลาง และภาคเหนือ รับมือฝนตกหนักตั้งแต่ 3-5 พฤษภาคม เพราะอาจจะมีน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยอธิบดีกรมอุตุฯ ยังห่วงประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร เพชรบุรี รับมือน้ำท่วม แม้พายุผ่านไปแล้ว

นายศุภฤกษ์ ตันศรีรัตนวงศ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า จากการเฝ้าติดตามพายุดีเปรสชั่นในขณะนี้ พายุกำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนทางเหนือ และจะเป็นเช่นนี้ไปจนถึงวันที่ 4 พฤษภาคม จะส่งผลให้บริเวณจังหวัดในภาคตะวันตก ภาคเหนือ เช่น แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ อุทัยธานี กำแพงเพชร ตาก กาญจนบุรี ราชบุรี จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 3- 5 พฤษภาคม ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายน้ำท่วมฉับพลัน รวมถึงให้เฝ้าระวังน้ำบนเทือกเขา น้ำตก ที่อาจไหลบ่าลงมาหากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนยังเป็นห่วงพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และเพชรบุรี แม้พายุจะเคลื่อนตัวไปแล้ว เพราะอิทธิพลของพายุทำให้ฝนตกหนาแน่นในพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงปริมาณน้ำฝนที่เริ่มสะสมมาก่อน ก็ขอให้ระวังภาวะน้ำท่วมต่อไป ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง และจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติในวันพรุ่งนี้ (3 พ.ค.) แต่คลื่นลมในทะเลอันดามันยังคงมีกำลังแรงต่อไปอีก 2-3 วัน สำหรับกรุงเทพฯ จะยังมีฝนตกประปรายต่อเนื่องไปอีกถึงวันพรุ่งนี้ (3 พ.ค.)




ภาพ น้ำท่วมประจวบฯ .... ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องตลอด 3 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้ถนนเพชรเกษมฝั่งขาขึ้นกรุงเทพ ช่วงตั้งแต่หน้าซอยหัวหิน 102 จนถึงหน้าโรงเรียนหัวหินวิทยาลัย มีน้ำท่วมขังสูง
--------------------------------------------------------------------------------------
พม่าเผชิญฝนตกหนักสุดในรอบ 40 ปี [ ผู้จัดการออนไลน์ : 6 พ.ค. 50 ]

หนังสือพิมพ์ในพม่า รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน ที่กรุงย่างกุ้ง ของพม่า หลังจากที่เผชิญกับฝนตกหนักที่สุดในรอบ 40 ปี
ผู้เคราะห์ร้าย 4 คน เสียชีวิตจากควันไฟไหม้ที่เกิดขึ้นจากไฟฟ้าลัดวงจรเพราะน้ำท่วมบ้าน ส่วนผู้หญิงอีก 1 คน เสียชีวิตเพราะถูกไฟดูดระหว่างออกมานอกบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่า ยอดผู้เสียชีวิตอาจมีมากกว่านี้
หลังจากที่กรุงย่างกุ้งจมอยู่ใต้น้ำมาตั้งแต่เมื่อวันเสาร์เพราะฝนตกอย่าง หนักตลอด 24 ชั่วโมง บางพื้นที่มีน้ำท่วมสูงเกือบ 14 นิ้ว บ้านเรือนหลายร้อยหลังถูกน้ำท่วม อาคารบางส่วนและต้นไม้พังราบ โทรศัพท์ใช้งานไม่ได้ ผู้อยู่อาศัยโทษว่า เป็นเพราะระบบการระบายน้ำไม่ดีทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งนี้

--------------------------------------------------------------------------------------
จ.ตาก เตือนระวังน้ำป่า ห้ามเล่นน้ำตก-ล่องแก่ง [ ผู้จัดการออนไลน์ : 6 พ.ค. 50 ]

นายชุมพร พลรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ในฐานะประธานอำนวยการศูนย์ป้องกันอุบัติภัย จ.ตาก กล่าวว่า จากการที่พายุฝนได้ตกหนักติดต่อมาหลายวันในพื้นที่ 5 อำเภอชายแดนจากพม่า จ.ตาก ประกอบด้วย อ.แม่สอดแม่ระมาด พบพระ ท่าสองยาง และอุ้มผาง ฝ่ายปกครองจึงประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนทั่วไป รวมทั้งนักท่องเที่ยวให้ระวังน้ำป่าไหลหลาก หากไม่จำเป็นควรงดเข้าไปท่องเที่ยวทางน้ำตก เช่น น้ำตกทีลอซู ต.อุ้มผาง น้ำตกพาจริญและน้ำตกนางครวญ ของอ.พบพระ การล่องแก่งน้ำห้วยแม่ละเมา อ.แม่สอด และล่องแก่งในน้ำแม่กรอง อุ้มผาง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยดินและน้ำป่าถล่ม
ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังขอให้ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาตามเส้นทางถนนสายตัดแม่สอด และถนนบริวณเส้นทางเชื่อมต่อ 5 อำเภอชายแดนใช้ระมัดระวังในการเดินทาง เพราะถนนลื่นทัศนะวิสัยไม่ดี ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ประกอบกับระหว่างเดินทางนั้น ให้ระวังข้างทางอาจเกิดดินและหินจากหุบเขาสไลด์ลงมาทับเส้นทาง และในช่วงที่มีสะพานเชื่อมต่อเส้นทางนั้นให้ระวังคอสะพานหัก อันจะนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเวลาในโอกาสที่ฝนตกหนัก


--------------------------------------------------------------------------------------
ข้อมูลอ้างอิง
  • คมชัดลึก : http://www.komchadluek.net
  • ผู้จัดการออนไลน์ : http://www.manager.co.th/
  • กรุงเทพธุรกิจ: http://www.bangkokbiznews.com