บันทึกเหตุการณ์น้ำท่วมพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษและอุบลราชธานี (กันยายน 2552)

ภาพดาวเทียม GOES-9


1/9/2009
23GMT


2/9/2009
20GMT

3/9/2009
11GMT

4/9/2009
10GMT

5/9/2009
17GMT

6/9/2009
16GMT

7/9/2009
11GMT

8/9/2009
07GMT

9/9/2009
17GMT

13/9/2009
113GMT

14/9/2009
11GMT

15/9/2009
12GMT

16/9/2009
12GMT

17/9/2009
10GMT

21/9/2009
20GMT

22/9/2009
13GMT

23/9/2009
12GMT

24/9/2009
09GMT

25/9/2009
10GMT

26/9/2009
13GMT

27/9/2009
18GMT

28/9/2009
19GMT

29/9/2009
17GMT

30/9/2009
07GMT
จากภาพถ่ายดาวเทียม GOES-9 พบว่าในเดือนกันยายนมีกลุ่มเมฆปกคลุมพื้นที่ประเทศไทยคอนข้างต่อเนื่องโดยเฉพาะบริเวณตอนบนของประเทศ จังหวัดอุบลราชธานีและศรีสะเกษเป็นพื้นที่หนึ่งที่ีมีกลุ่มเมฆปกคลุมค่อนข้างหนาและค่อนข้างต่อเนื่อง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกค่อนข้างมาก และส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ประกอบกับในช่วงปลายเดือน พายุ "กีสน่า" ได้เคลื่อนตัวเข้าใกล้ประเทศไทย ทางด้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้พื้นที่ดังกล่าวที่มีน้ำท่วมอยู่แล้วเกิดน้ำท่วมเพิ่มเป็นบริเวณกว้างมากยิ่งขึ้น โดยทางจังวัดอุบลราชธานีได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยบฉุกเฉินทั้งหมด 23 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.วารินชำราบ อ.ตระการพืชผล อ.โพธิ์ไทร อ.ตาลสุม อ.เดชอุดม อ.กุดข้าวปุ้น อ.โขงเจียม อ.ม่วงสามสิบ อ.น้ำขุ่น อ.เขมราฐ อ.พิบูลมังสาหาร อ.ดอนมดแดง อ.นาเยีย อ.เหล่าเสือโก้ก อ.น้ำยืน อ.ทุ่งศรีอุดม อ.สำโรง อ.นาจะหลวย อ.นาตาล อ.ศรีเมืองใหม่ อ.สิรินธร และ อ.สว่างวีระวงษ์ ส่วนจังหวัดศรีสะเกษเกิดพื้นที่น้ำท่วมในอำเภออุทุมพรพิสัย ภูสิงห์ ไพรบึง ขุขันธ์ ปรางค์กู่ ห้วยทับทัน ราศีไศล

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

ภาพแผนที่อากาศ

1/9/2009

2/9/2009

3/9/2009

4/9/2009

5/9/2009

7/9/2009

8/9/2009



9/9/2009

14/9/2009

15/9/2009

16/9/2009

21/9/2009

22/9/2009

23/9/2009

24/9/2009

25/9/2009

26/9/2009

27/9/2009

28/9/2009

29/9/2009

30/9/2009
จากภาพแผนที่อากาศกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่ามีร่องความกดอากาศพาดผ่านบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือค่อนข้างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงปลายเดือน โดยช่วงปลายเดือนพายุกีสน่าได้เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยทางด้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
   

ภาพเรดาร์กรมอุตุนิยมวิทยา
เรดาร์อุบลราชธานี รัศมี 120 กิโลเมตร      

อุบลราชธานี
1/9/2009
22:33GMT

อุบลราชธานี
2/9/2009
15:33GMT

อุบลราชธานี
3/9/2009
22:33GMT

อุบลราชธานี
4/9/2009
08:33GMT

อุบลราชธานี
5/9/2009
14:33GMT

อุบลราชธานี
6/9/2009
20:33GMT

อุบลราชธานี
7/9/2009
18:33GMT
     

อุบลราชธานี
8/9/2009
21:33GMT

อุบลราชธานี
9/9/2009
17:33GMT

อุบลราชธานี
14/9/2009
15:33GMT

อุบลราชธานี
15/9/2009
10:33GMT

อุบลราชธานี
16/9/2009
13:33GMT

อุบลราชธานี
21/9/2009
20:33GMT

อุบลราชธานี
22/9/2009
17:33GMT
     

อุบลราชธานี
24/9/2009
07:33GMT

อุบลราชธานี
25/9/2009
15:33GMT

อุบลราชธานี
26/9/2009
14:33GMT

อุบลราชธานี
27/9/2009
16:33GMT

อุบลราชธานี
28/9/2009
23:33GMT

อุบลราชธานี
29/9/2009
17:33GMT

อุบลราชธานี
30/9/2009
01:33GMT
ข้อมูลจากเครือข่ายภาพเรดาร์กรมอุตุนิยมวิทยาเรดาร์อุบลราชธานี รัศมี 120 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง พบว่าในเดือนกันยายนมีฝนตกในพื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างมากและค่อนข้างต่อเนื่องตลอดทั้งเดือน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดอุบลราชธานี และศรีสะเกษที่เกิดน้ำท่วมหนัก

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
     

ปริมาณฝนสะสม

1/9/2009
00am

2/9/2009
12am

3/9/2009
00am

4/9/2009
12am

6/9/2009
12am

7/9/2009
12am

8/9/2009
00am

9/9/2009
00am

15/9/2009
12am

16/9/2009
00am

17/9/2009
00am

22/9/2009
00am

29/9/2009
12am

30/9/2009
12am
จากแผนภาพแสดงปริมาณฝนสะสมของสถาบันวิจัยทหารเรืออเมริกา พบว่าในเดือนกันยายนมีกลุ่มฝนกระจุกตัวกันค่อนข้างต่อเนื่องในบริเวณจังหวัดศรีสะเกษและอุบลราชธานี ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ประกอบกับในช่วงปลายเดือน พายุ "กีสนา" ได้เคลื่อนตัวเข้าใกล้ประเทศไทยทางฝั่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลกระทบให้มีฝนเพิ่มมากขึ้นอีก และทำให้ระดับน้ำท่วมเพิ่มมากยิ่งขึ้น

รายละเอียดเพิ่มเติม

แผนภาพปริมาณฝนสะสมจาก NASA

ประมาิณฝนสะสมช่วงวันที่ 1-7 กันยายน 2552


ประมาิณฝนสะสมช่วงวันที่ 8-14 กันยายน 2552
 

ประมาิณฝนสะสมช่วงวันที่ 15-21 กันยายน 2552
 

จากแผนภาพแสดงปริมาณฝนสะสมราย 7 วัน จาก NASA พบว่ามีกลุ่มฝนกระจุกตัวกันบริเวณจังหวัดอุบลราชธานีและศรีสะเกษตลอดทั้ง 4 สัปดาห์ของเดือนกันยายน โดยเฉพาะช่วงสัปดาห์แรกที่มีกลุ่มฝนกระจุกตัวกันค่อนข้างมากกว่าสัปดาห์อื่น


ปริมาณฝนจากสถานีตรวจวัดกรมอุตุนิยมวิทยา

2/9/2552

6/9/2552

7/9/2552

8/9/2552

29/9/2552

30/9/2552

ภาพแสดงข้อมูลฝนสะสมจากสถานีตรวจอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าที่สถานีอุบลราชธานี สกษ.อุบลราชธานี และ สกษ.ศรีสะเกษ ตรวจพบปริมาณฝนค่อนข้างมากในวันที่ 2, 6, 7, 8, 29, 30 กันยายน โดยเฉพาะวันที่ 28 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่มีปริมาณฝนค่อนข้างมาก ปริมาณฝนสะสมรายวันของทั้งสามสถานีอยู่ที่ 92.8, 77.7 และ 43.6 มิลลิเมตรตามลำดับ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม


ข้อมูลน้ำล้นตลิ่งจากสถานีวัดระดับน้ำท่า กรมชลประทาน

บ้านเมืองคง จ.ศรีสะเกษ
(ระดับตลิ่ง 8.1 ม.)

บ้านหนองหญ้าปล้อง จ.ศรีสะเกษ
(ระดับตลิ่ง 7.78 ม.)

บ้านโนนศรีไศล จ.ศรีสะเกษ
(ระดับตลิ่ง 9.49 ม.)

ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ
(ระดับตลิ่ง 6.0 ม.)


สะพานเสรีประชาธิปไตย จ.อุบลราชธานี
(ระดับตลิ่ง 6.3 ม.)

จากกราฟแสดงข้อมูลระดับน้ำจากสถานีตรวจวัดน้ำท่ากรมชลประทาน พบว่ามีระดับน้ำล้นตลิ่งอยู่หลายจุด้วยกัน โดยเฉพาะที่สถานีห้วยทับทัน และสถานีบ้านหนองหญ้าปล้อง จังหวัดศรีสะเกษ ที่มีระดับน้ำล้นตลิ่งค่อนข้างสูง โดยที่สถานีห้วยทับทันระดับน้ำน้ำสูงสุดอยู่ที่ 9.42 เมตร ในวันที่ 13 ก.ย. ในขณะที่ระดับตลิ่งสูงเพียงแค่ 6.0 เมตร ส่วนสถานีหนองหญ้าปล้องระดับน้ำสูงสุดอยู่ที่ 11.67 เมตร ในวันที่ 18 ก.ย. ในขณะที่ระดับตลิ่งอยู่ที่ 7.78 เมตร

ข้อมูลปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่

                   ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนสิรินธร

จากกราฟแสดงปริมาณไหลลงอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิรินธร พบว่าช่วงต้นเดือนปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิรินธรค่อนข้างมาก และได้ลดลงตามลำดับ และในช่วงสิ้นเดือนปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ เพิ่มสูงขึ้นถึง 114.63 ล้าน ลบ.ม. อันเป็นผลมาจากพายุดีเปรสชั่น "กีสน่า"

รายละเอียดเพิ่มเติม


ข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม (คลิ๊กเพื่อแสดงภาพใหญ่)
         
ข้อมูลจากดาวเทียม RADARSAT-1
บันทึกข้อมูลเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2552
เวลา 05.55 น. แสดงพื้นที่น้ำท่วมบริเวณ
บางส่วนของจังหวัดยโสธร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ
สุรินทร์ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
ข้อมูลจากดาวเทียม RADARSAT-1
บันทึกข้อมูลเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2552
เวลา 18.06 น. แสดงพื้นที่น้ำท่วมบริเวณ
บางส่วนของจังหวัดมหาสารคาม ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ
และสุรินทร์
ข้อมูลจากดาวเทียม RADARSAT-1
บันทึกข้อมูลเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2552
เวลา 18.02 น. แสดงพื้นที่น้ำท่วมบริเวณ
บางส่วนของจังหวัดยโสธร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษและสุรินทร์

ข้อมูลด้านความเสียหาย

สรุปสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือ (ระหว่างวันที่ 8-14 กันยายน 2552)
     จังหวัดอุบลราชธานี น้ำจากแม่น้ำมูลเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ 3 ชุมชน ความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ
     จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 10-12 กันยายน 2552 เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้ระดับน้ำในลุ่มน้ำห้วยทา ลุ่มน้ำห้วยขยูง ลุ่มน้ำห้วยทับทัน และลุ่มน้ำห้วยสำราญ เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่ง ในพื้นที่อำเภอขุนหาญ ขุขันธ์ ภูสิงห์ อุทุมพรพิสัย ห้วยทับทัน และอำเภอปรางค์กู่ รวม 6 อำเภอ 26 ตำบล 53 หมู่บ้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ (นายระพี ผ่องบุพกิจ) ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหาย และให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว พร้อมมอบถุงยังชีพจำนวน 2,345 ชุด และหากไม่มีฝนตกเพิ่มคาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 สัปดาห์
     การให้ความช่วยเหลือ จังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว และจะได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือจากเงินทดรองราชการ

ที่มา : ตัดเฉพาะส่วนมาจากรายงานสรุปสถานการณ์สาธารณภัยประจำสัปดาห์(ระหว่างวันที่ 8-14 ก.ย.52) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย http://www.disaster.go.th/
         

ข่าวจากหนังสือพิมพ์

--------------------------------------------------------------------------------------

ศรีสะเกษน้ำทะลักกว่า2พันครอบครัว [ ไทยรัฐ : 12 ก.ย. 52 ]

รองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม อ.อุทุมพรพิสัย พบน้ำท่วมแล้ว 4 ตำบล ราษฎรได้รับผลกระทบ 2,345 ครอบครัว ...

เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (12 ก.ย.) นายวิศว ศะศิสมิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับนายสุขสันต์ บุญโทแสง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดศรีสะเกษ และ นายวิจักขณ์ ชินโคตรพงศ์ นายอำเภออุทุมพรพิสัย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางเข้าพื้นที่ อ.อุทุมพรพิสัย ซึ่งต้องนั่งรถอีแต๋น เข้าไป เนื่องจากน้ำท่วมสูง เพื่อสำรวจดูความเสียหายจากการถูกน้ำท่วม ปรากฏว่า น้ำได้เอ่อเข้าท่วมพื้นที่ 4 ตำบล รวม 2,345 หมู่บ้าน ไร่นา และ พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมไปแล้ว 7,000 ไร่

นายวิศว กล่าวว่า น้ำที่ล้น และไหลลงมาจากอ่างเก็บน้ำห้วยตาจู ห้วยศาลา และ อ่างเก็บน้ำโอทะลัน อ.ภูสิงห์ ได้ท่วมบ้านเรือนและไร่นาของราษฎรที่ อ.ภูสิงห์ อ.ขุนหาญ ไพรบึง ขุขันธ์ ปรางค์กู่ สร้างความเสียหายมาแล้ว และเมื่อคืนที่ผ่านมา น้ำได้ไหลลงมาตามห้วยสำราญ จากภูสิงห์มารวมกับน้ำในลำห้วยวะ ที่ไหลมาจาก อ.ห้วยทับทัน เมื่อบรรจบกันที่บ้านหมู่ที่ 7 ต.ทุ่งไชย จึงทำให้น้ำเอ่อล้นขึ้นท่วมไร่นาบ้านเรือนของราษฎร โดยที่ถนนระหว่างบ้านสิมกับบ้านอะลาง ต.โคกจาน น้ำท่วมสูงประมาณ 1 ม. และที่ถนนระหว่างบ้านโนนแดง ม. 7 ไปบ้านโนนม่วง ก็ท่วมสูง 1 ม.เช่นเดียวกัน

รอง ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ น้ำท่วมพื้นที่ อ.อุทุมพรพิสัย ไปแล้ว 4 ตำบล ได้แก่ ต.โคกจาน ต.ทุ่งไชย ก้านเหลือง และต.แข้ น้ำท่วมไปแล้ว 2,345 หมู่บ้าน ไร่นา พื้นที่ทางการเกษตร ถูกน้ำท่วมไปแล้วประมาณ 7,000 ไร่ คาดว่า ในพรุ่งนี้ คือวันที่ 13 ก.ย.น้ำจะเข้าท่วมที่ ต.ปะอาว และ ต.ขะยุง ซึ่งอยู่ใต้ลงไป และอีก 2 วัน น้ำจะไหลไปถึงตัวเมืองศรีสะเกษ จึงขอฝากเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง หรือที่เคยถูกน้ำท่วมมาแล้ว ขอให้ระมัดระวัง ให้เตรียมความพร้อม เก็บข้าวของทรัพย์สินขึ้นไปไว้ที่สูงให้ปลอดภัยไว้

--------------------------------------------------------------------------------------

น้ำท่วม“อุทุมพรพิศัย”ศรีสะเกษจม 500 หลัง – ร.ร.หลายแห่งสั่งปิดไร้กำหนด [ ผู้จัดการออนไลน์ : 14 ก.ย. 52 ]

ศรีสะเกษ - น้ำท่วม 5 หมู่บ้านในเขต อ.อุทุมพรพิสัย บ้านเรือนจมบาดาลกว่า 500 หลัง ไร่นาจมใต้น้ำนับหมื่นไร่ โรงเรียนหลายแห่งต้องปิดไม่มีกำหนด ชาวบ้านต้องหันมาใช้เรือแทนรถ บางหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

วานนี้ (13 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ ในเขต ต.โคกจาน อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ได้เกิดน้ำป่าจากลำห้วยวะ ไหลมาจากเทือกเขาพนมดงรักชายแดนไทย – กัมพูชา เอ่อล้นทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน ไร่นาของชาวบ้านในเขต 5 หมู่บ้าน ต.โคกจาน คือ บ้านยาง บ้านอาลาง บ้านโปร่งสามัคคี บ้านสิม และ บ้านแสนคูณ ทำให้ไร่นาของชาวบ้านถูกน้ำท่วมจมอยู่ใต้น้ำกว่า 10,000 ไร่ ขณะที่บ้านเรือนของชาวบ้านถูกน้ำท่วมไปแล้วกว่า 500 หลังคาเรือน ชาวบ้านต้องพากันขนย้ายข้าวของอพยพหนีน้ำท่วม พร้อมทั้งนำสัตว์เลี้ยงไปอยู่บนที่สูงอย่างโกลาหล และนำเอาเรือมาใช้ในการสัญจรไปมาแทนรถยนต์

ขณะที่โรงเรียนหลายแห่งในเขต ต.โคกจาน เช่น โรงเรียนทุ่งสิมวิทยาคม โรงเรียนบ้านโปร่งสามัคคี ได้ถูกน้ำท่วมภายในบริเวณโรงเรียนทำให้ไม่สามารถเปิดทำการเรียนการสอนในวันจันทร์ พรุ่งนี้ ( 14 ก.ย.) ได้ ต้องสั่งปิดโรงเรียนออกไปอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าน้ำท่วมจะลดลง

นายอดูล เพ็งแจ่ม อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 3 บ้านโคกจาน ต.โคกจาน อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ระดับน้ำได้เริ่มสูงขึ้นและเอ่อล้นเข้ามาในไร่นา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ทุ่งสุระ ต.โคกจาน ซึ่งเป็นแหล่งที่ชาวบ้านทำนาจำนวนมาก น้ำได้ไหลทะลักเข้าไปท่วมไร่นาสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งในวันนี้ระดับน้ำได้ท่วมถนนหลายสายในหมู่บ้าน ทำให้หลายหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก บ้านเรือนจมใต้น้ำ มากกว่า 500 หลังคาเรือนใน 5 หมู่บ้าน

ส่วนนาข้าวของตน ซึ่งต้นข้าวกำลังโตต้องจมอยู่ใต้น้ำ หากน้ำท่วมเป็นเวลานานต้นข้าวคงต้องเน่าตายอย่างแน่นอน ขณะนี้ทำได้เพียงหาจับปลาที่มากับน้ำท่วม เพื่อมาทำเป็นอาหาร และกำลังรอการช่วยเหลือจากทางราชการ นายอดุล กล่าว



--------------------------------------------------------------------------------------

อุบลฯ-น้ำท่วมพื้นที่ 3 ชุมชนเมืองขยายวงกว้างมากขึ้น [ ครอบครัวข่าว : 14 ก.ย. 52 ]

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 3 ชุมชนเมืองในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ ยังขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ยังทวีความรุ่นแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ 3 ชุมชนเมืองในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี คือชุมชนบ้านท่าบุ่งมั่ง ชุมชนบ่อบำบัดน้ำเสีย และชุมชนเกตุแก้ว เจอกระแสน้ำมูลที่เพิ่มสูงขึ้น เอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน ที่อาศัยอยู่ตามแนวริมแม่น้ำมูลสูงประมาณ 1-2 เมตร ส่งผลทำให้ประชาชนกว่า 500 ครัวเรือน ต้องอพยพสิ่งของเครื่องใช้ ภายในตัวบ้านหาที่พักอาศัยชั่วคราวตามข้างถนนสายอุบลราชธานี-เมืองวารินชำราบอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าระดับแม่น้ำมูลยังจะเอ่อล้นตลิ่งสูงขึ้นเลื่อย ๆ เพราะสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่จังหวัดตอนเหนือยังทวีความรุ่นแรง ซึ่งน้ำทั้งหมดก็จะไหลเอ่อลงมารวมกันยังสายแม่น้ำมูล ซึ่งพื้นที่ จ.อุบลราชธานีเป็นจุดรับน้ำทั้งหมด เพื่อไหลระบายออกสู่ทะเลต่อไป จึงทำให้พื้นที่ จ.อุบลราชธานี เจออุทุกภัยน้ำท่วมยาวนานกว่า ทุก ๆ จังหวัด และจากการตรวจสอบข้างถนนเริ่มมีประชาชนที่ประสบอุทุกภัยจำนวนมาก จับจองสถานที่สร้างเพิงพักชั่วคราวกันอย่างหนาตา

ขณะภายหลังการรายงานข่าวของทีมข่าวช่อง 3 เมื่อวานนี้ ที่ไม่มีหน่วยงานใด ยื่นมือเข้าช่วยเหลือประชาชนในการอพยพสิ่งของ โดยในตอนเช้าวันนี้ ด้านผู้สื่อข่าวในพื้นที่ ออกสำรวจพบ รถบรรทุกน้ำของสำนักงานเทศบาลเมืองวารินชำราบ จำนวน 1 คัน ตระเวนนำน้ำอุปโภคและบริโภค วิ่งแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่ประสบอุทุกภัยแล้วเป็นวันแรก และชาวบ้านที่เดือดร้อนต่างดีใจที่ได้รับการช่วยเหลือ จากการนำเสนอข่าวที่ตรงไปตรงมา ของทีมข่าวช่อง 3 ในครั้งนี้ และคาดว่าจะมีหน่วยงานจาก หลาย ๆ หน่วย ออกมาดูแลประชาชนที่กำลังเดือดร้อนต่อไป 



--------------------------------------------------------------------------------------
อุบลฯประกาศให้23อำเภอประสบภัยพิบัติ [ ไทยรัฐ : 18 ก.ย. 52 ]

อุบลฯประกาศให้พื้นที่ 23 อำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินหลังน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ขณะที่ ผวจ.สั่งทุกอำเภอเตรียมพร้อมช่วยชาวบ้านทันที...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 ก.ย.) ที่ห้องประชุมสำนักเขตพื้นที่การศึกษา (สพฐ.) อุบลราชธานีเขต 1 อ.เมือง จ.อุบลราชธานี นายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการ จ.อุบลราชธานี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการคณะทำงานศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม จ.อุบลราชธานี ประจำปี 2552 เพื่อติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์อุทกภัยในเขต จ.อุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยและการช่วยเหลือประชาชน

มีรายงานถึงผลการประชุมครั้งนี้ ว่า มีการประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินใน 23 อำเภอของ จ.อุบลราชธานี ประกอบด้วย อ.เมือง อ.วารินชำราบ อ.ตระการพืชผล อ.โพธิ์ไทร อ.ตาลสุม อ.เดชอุดม อ.กุดข้าวปุ้น อ.โขงเจียม อ.ม่วงสามสิบ อ.น้ำขุ่น อ.เขมราฐ อ.พิบูลมังสาหาร อ.ดอนมดแดง อ.นาเยีย อ.เหล่าเสือโก้ก อ.น้ำยืน อ.ทุ่งศรีอุดม อ.สำโรง อ.นาจะหลวย อ.นาตาล อ.ศรีเมืองใหม่ อ.สิรินธร และ อ.สว่างวีระวงษ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนถึงขณะนี้ มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมแล้ว 123 ตำบลใน 851 หมู่บ้าน 33,709 ครัวเรือน 137,000 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 15,477 ไร่ และมีพื้นที่ในเขตเทศบาลประสบอุทกภัย 2 แห่ง ได้แก่ เทศบาลนครอุบลราชธานี และเทศบาลนครเมืองวารินชำราบ มีประชาชนอพยพแล้ว จำนวน 106 ครัวเรือน 371 คน

นายชวน กล่าวว่า ย้ำเตือนให้แต่ละอำเภอเตรียมความพร้อมของหน่วยงานต่างๆ เพื่อรองรับสถานการณ์ช่วย เหลือประชาชนเมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมได้ทันต่อเหตุการณ์ให้มากที่สุด และสดการสูญเสีย

--------------------------------------------------------------------------------------
อุบลฯ น้ำยังท่วมสูง เสียหายหนัก [ ครอบครัวข่าว : 20 ก.ย. 52 ]

สถานการณ์น้ำท่วม จ.อุบลราชธานี ยังน่าเป็นห่วง ระดับน้ำในแม่น้ำมูลสูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ ปภ.จังหวัดบินสำรวจความเสียหาย เพื่อนำกำลังคน และเครื่องจักรเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างทั่วถึง
นายบพิต พันธ์พินิจ หัวหน้าสำนักงานป้องกันภัย จ.อุบลราชธานี พร้อมทั้งผู้สื่อข่าว นั่งเครื่องบินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำรวจสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ พบระดับน้ำในแม่น้ำมูลเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เอ่อล้นตลิ่งไหลบ่าเข้าท่วมถนน และบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำมูล และที่ลุ่มหลายแห่งในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี และเทศบาลเมืองวารินชำราบ ได้รับความเดือดร้อน 13 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนวังแดง ชลประทาน-ท่าบ่อ เยาวเรศฯ 2 ศาลากลางบ้านดู่ 1 บูรพาราม 1 บูรพาราม 3 วัดโรมันคาทอลิค ถนนพนม 2 ถนนพนม 1 เยาวเรศ ฯ 4 โรงเรียนเทศบาลบูรพา 1 วัดบูรพาราม 2 ท้ายซอยสุขาอุปถัมภ์ จำนวน 87 ครัวเรือน 314 คน ต้องอพยพประชาชนหนีน้ำ 4 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนวังแดง 12 ครัวเรือน 57 คน ชุมชนชลประทาน -ท่าบ่อ 11 ครัวเรือน 45 คน ชุมชนเยาวเรศฯ 2 จำนวน 1 ครัวเรือน 6 คน ชุมชนศาลากลางบ้านดู่ 1 จำนวน 4 ครัวเรือน 6 คน โดยเทศบาลนครอุบลราชธานี ให้การช่วยเหลือเบื้องต้น โดยการตั้งเต็นท์ที่พักชั่วคราว ถังน้ำอุปโภค-บริโภค และห้องสุขา พร้อมทั้งนำเรือท้องแบน 6 ลำ ไปให้ผู้ประสบภัยใช้ในการสัญจรไปมาตามชุมชน

เทศบาลเมืองวารินชำราบ ได้รับความเดือดร้อน 5 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนท่าบ้งมั่ง เกตุแก้ว ท่ากอไผ่ หาดสวนยา และชุมชน ดีงาม จำนวน 322 ครัวเรือน 1,409 คน อพยพ 2 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนเกตุแก้ว 40 ครัวเรือน 141 คน ชุมชนท่าบ้งมั่ง 38 ครัวเรือน 116 คน ขณะนี้เทศบาลวารินชำราบ ได้อพยพประชาชนไปยังจุดรองรับผู้อพยพข้างกรมที่ดิน อำเภอวารินชำราบ รวมผู้ที่ได้รับผลกระทบ 400 ครัวเรือน 1,666 คน

เบื้องต้น จ.อุบลราชธานี ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว 23 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อน 123 ตำบล 2 เทศบาล 851 หมู่บ้าน 33,709 ครัวเรือน 137,000 คน ความเสียหายเบื้องต้น ถนน 217 สาย สะพาน 7 แห่ง ท่อระบายน้ำ 30 แห่ง ฝาย 4 แห่ง บ่อปลา 36 บ่อ พื้นที่การเกษตร 15,477 ไร่ ปศุสัตว์ 200,560 ตัว 

--------------------------------------------------------------------------------------

น้ำท่วมศรีสะเกษ ขยายวงกว้าง 19 อำเภอ [ ไทยรัฐ : 22 ก.ย. 52 ]

ปริมาณน้ำในลำห้วยสำคัญ 3 แห่ง มีปริมาณน้ำล้นจากอ่างเก็บน้ำ อาจมีน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ในอีก 1 – 2 วันนี้ จังหวัดศรีสะเกษ  เร่งช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (22 ก.ย.) ถึงสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดศรีสะเกษว่า แม้ในระยะ 3 – 4 วัน จะไม่มีฝนตกในพื้นที่ ทำให้ระดับน้ำเริ่มทรงตัว และลดระดับลง แต่สถานการณ์น้ำที่กักเก็บตามอ่างเก็บน้ำและลำห้วยสำราญ ห้วยขะยูงและลุ่มน้ำห้วยทา ยังมีปริมาณน้ำมาก โดยมีปริมาณน้ำที่วัดได้ตามอ่างเก็บน้ำ มากกว่าความจุของอ่าง จึงได้ล้นสปริงเวย์

นายสุขสันต์ บุญโทแสง หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ศรีสะเกษ มีพื้นที่ประสบภัย จำนวน 19 อำเภอ 137 ตำบล 1,228 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน กว่า 67,000 ครัวเรือน ส่วนพื้นที่การเกษตร มีที่นาถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 153,000 ไร่ สำหรับการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน จังหวัดศรีสะเกษ รวมทั้งองค์กร มูลนิธิต่างๆ ได้นำเครื่องอุปโภคบริโภค ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย แล้วจำนวน 11,450 ชุด


หน.สนง.ป้องกันฯ  กล่าวอีกว่า แนวโน้มของปัญหาน้ำท่วม คาดว่า น้ำได้เริ่มทรงตัวและลดระดับลงเรื่อยๆ เนื่องจากไม่มีฝนตกมาในพื้นที่จึงจะยังมีปัญหาน้ำท่วมขังและลดลงอย่างช้าๆ ส่วนระดับลุ่มน้ำมูล ที่ไหล่ผ่านด้านอำเภอราศีไศล จังหวัดศรีสะเกษ นั้น กลับมีปริมาณน้ำสะสม และระดับน้ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คาดว่า อีก 2 วัน จะล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำมูลได้


--------------------------------------------------------------------------------------

อุบลฯ-สถานการณ์น้ำท่วมยังคงที่ [ ครอบครัวข่าว : 24 ก.ย. 52 ]

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ยังคงที่ ล่าสุดชาวบ้านที่ประสบอุทกภัย ต้องอาศัยเพิงพักข้างถนนอยู่ด้วยความยากลำบาก ขณะทานน้ำใจจากหน่วยงานต่าง ๆ แห่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง

ที่ จ.อุบลราชธานี สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ และเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี ยังรุนแรง เพราะระดับแม่น้ำมูลยังเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้วัดระดับแม่น้ำมูลอยู่ที่ 6.89 เมตร ซึ่งถือว่ายังทรงตัว ซึ่งประชาชนที่อพยพสิ่งของขึ้นมาอาศัยอยู่ตามไหลถนน 2 ข้าง สายอุบลราชธานี-วารินชำราบ ยังเดือดร้อนหนัก ทั้งรถที่วิ่งสัญจรผ่านไปมา ส่งเสียรบกวน และสภาพความเป็นอยู่ที่แออัด ร่วมทั้งในช่วงนี้ ชาวบ้านที่ศูนย์อพยพ 2 ข้างถนน เริ่มขาดแคลนห้องสุขาไว้ใช้ระบายทุกข์จำนวนมาก ซึ่งในช่วงนี้ชาวบ้านต้องหาพื้นที่ตามธรรมชาติใช้เป็นที่วางระเบิดตัวเอง และชาวบ้านเริ่มป่วยเป็นโรคน้ำกัดเท้า และท้องรวงมากขึ้น เนื่องจากการเดินย่ำน้ำเข้า - ออก เพื่อไปตรวจสอบสภาพบ้านเรือนของตนเองว่า ถูกโจรขโมยงัดเอาสิ่งของที่ติดอยู่ภายในตัวบ้านไปหรือไม่ทุกวัน และด้านสุขอนามัยของชาวบ้านเริ่มกินอยู่ที่ไม่สะอาดเพิ่มขึ้น จึงทำให้ชาวบ้านที่ศูนย์อพยพเกิดป่วยเป็นโรคดังกล่าว


ขณะในวันนี้ทางด้านนายอุทัย เกษมทาง ประธานกลุ่มรักเมืองศรีไค พร้อมสมาชิก จำนวน 10 คน จัดนำผลไม้นานาชนิด จำนวน 500 กิโลกรัม และยาสามัญประจำบ้าน จำนวน 50 ชุด ส่งมอบให้นายจีระชัย ไกรกังวาร นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองวารินชำราบ เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่เทศบาลเมืองวารินชำราบด้วย

โดยสรุปความเสียหายจากอุทกภัยน้ำท่วมในเขต เทศบาลเมืองวารินชำราบ ได้รับความเดือดร้อน 5 ชุมชน ได้แก่ชุมชนท่าบ้งมั่ง เกตุแก้ว ท่ากอไผ่ หาดสวนยา และชุมชน ดีงาม จำนวน 350 ครัวเรือน 1,509 คน อพยพ 2 ชุมชน ได้แก่ชุมชนเกตุแก้ว 60 ครัวเรือน 341 คน ชุมชนท่าบ้งมั่ง 48 ครัวเรือน 216 คน ขณะนี้เทศบาลวารินชำราบได้อพยพประชาชนไปยังจุดรองรับผู้อพยพข้างกรมที่ดินอำเภอวารินชำราบ รวมผู้ที่ได้รับผลกระทบ 458 ครัวเรือน 2.066 คน



--------------------------------------------------------------------------------------
น้ำท่วมเมืองอุบลฯส่งผลกระทบผู้เลี้ยงปลาในกระชัง [ ผู้จัดการออนไลน์ : 28 ก.ย. 52 ]

อุบลราชธานี - สถานการณ์น้ำท่วม จ.อุบลราชธานี แม้ระดับน้ำเริ่มลดลง แต่ได้สร้างความเสียหายให้กับผู้เลี้ยงปลาในกระชัง ซึ่งต้องหมั่นตรวจสอบเชือกใช้ผูกโยงกระชังเลี้ยงปลากับตลิ่งไม่ให้หย่อนหรือตึงจนเกินไป รวมทั้งยังต้องคอยดูเศษกอสวะที่ลอยมาตามน้ำไม่ให้ทำความเสียหายแก่กระชังใช้เลี้ยงปลา ด้านอุตุฯระบุอีสานยังมีฝนตกชุก
       
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม จ.อุบลราชธานี แม้ระดับน้ำเริ่มปรับตัวลดลง แต่ปริมาณน้ำที่มีอัตราการไหลของน้ำเร็วกว่าปกติ ส่งผลกระทบให้ผู้เลี้ยงปลากระชังในลำน้ำมูลน้อย ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำมูลประสบปัญหาเศษกอสวะไหลมาตามน้ำ ทั้งตอไม้และผักตบชวาพุ่งเข้าชนกระชังได้รับความเสียหาย
       
นอกจากนี้ ความเร็วของน้ำยังส่งผลให้ปลาเลี้ยงในกระชังกินอาหารน้อยลง เนื่องจากปลาต้องว่ายทวนน้ำที่มีความเร็วเป็นเวลานาน และตกใจเมื่อถูกกอสวะพุ่งชนกระชัง รวมทั้งผู้เลี้ยงปลาในกระชังยังต้องคอยตรวจสอบระดับน้ำขึ้นน้ำลงที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพื่อคอยปล่อยเชือกล่ามกระชังในแม่น้ำไม่ให้หย่อนหรือตึงจนเกินไป เพราะจะทำให้กระชังใช้เลี้ยงปลาขาดเสียหายได้
       
สำหรับปริมาณน้ำในแม่น้ำมูลวันนี้ ยังมีระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยที่สถานีวัดน้ำสะพานเสรีประชาธิปไตยระดับน้ำลดลงเหลือ 6.60 เมตร แต่สูงกว่าตลิ่ง 1.60 เมตร ทำให้ชุมชนต่างๆที่มีระดับน้ำท่วมสูงในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีระดับน้ำท่วมลดลง แต่ชาวชุมชนสองฝั่งแม่น้ำมูลที่อยู่ในเขตเสี่ยงภัยยังต้องเตรียมรับสถานการณ์หากเกิดน้ำเหนือหลากฉับพลัน จึงยังไม่อพยพกลับลงมา โดยจะขอดูท่าทีระดับน้ำในแม่น้ำมูลไปถึงต้นเดือนตุลาคม
       

ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.อุบลราชธานี ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 26-30 ก.ย.ยังคงมีฝนตกลงมาร้อยละ 60 เปอร์เซ็นต์ในพื้นที่ เพราะมีอิทธิพลของพายุและลมมรสุมพัดผ่านประเทศไทย จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังระดับน้ำที่อาจปรับตัวสูงขึ้นอีกได้


--------------------------------------------------------------------------------------

ข้อมูลอ้างอิง
  • ไทยรัฐ : http://www.thairath.co.th
  • ผู้จัดการออนไลน์ : http://www.manager.co.th/
  • ครอบครัวข่าว : http://www.krobkruakao.com